ผบช.สตม.แถลงข่าว Biometrics โชว์ผลงานอีกรวบหนุ่มอินเดียเปลี่ยนพาสปอร์ตเข้าประเทศหลบเลี่ยง Blacklist

 ผบช.สตม.แถลงข่าว Biometrics โชว์ผลงานอีกรวบหนุ่มอินเดียเปลี่ยนพาสปอร์ตเข้าประเทศหลบเลี่ยง Blacklist

 

วันพฤหัสบดีที่ 21 พ.ย.62 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา รอง ผบช.ตชด. ปฏิบัติราชการ สตม., พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.อรุษ แสงจันทร์ รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ภคยศ ทะนงศักดิ์ ผกก.สส.บก.ตม.6 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดีคนร้ายต่างชาติรายสำคัญ และคดีที่น่าสนใจ ดังนี้

กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 ได้ดำเนินการสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ จว.สงขลา ซึ่งต่อมาได้พบข้อมูลว่ามีกลุ่มบุคคลสัญชาติอินเดียที่เคยถูกผลักดันส่งกลับไปยังประเทศอินเดีย เดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักร โดยใช้หนังสือเดินทางที่เปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อมูลบุคคล เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบรายชื่อบุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักร (BLACKLIST)จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลโดยอาศัยข้อมูลการแจ้งคนต่างด้าวเข้าพัก และข้อมูลลายพิมพ์นิ้วมือบุคคลต้องห้ามฯ ในระบบ Biometrics เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการสืบสวนจับกุมกลุ่มบุคคลดังกล่าว

 

เมื่อวันที่ 19 พ.ย.2562 กองกำกับการสืบสวนฯ ได้ควบคุมตัว MR.AMET สัญชาติอินเดีย จากการตรวจเทียบลายพิมพ์นิ้วมือบุคคลต้องห้ามในระบบ Biometrics พบว่า มีข้อมูลลายพิมพ์นิ้วมือตรงกับ MR.AMEET (ชื่อเดิม) สัญชาติอินเดีย หนังสือเดินทาง เดินทางเข้ามาประเทศไทย ทางด่านท่าอากาศยานกระบี่ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2559 ต่อมาถูกจับกุมในข้อหา “อยู่เกินกำหนดอนุญาต จำนวน 328 วัน และถูกส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรไทย โดยมีการบันทึกข้อมูลเป็นบัญชีบุคคลห้ามเข้า (Blacklist) ในระบบ ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ก.ค.2562 MR.AMEET เดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยอีกครั้ง ทางด่าน ตม.ทอ.หาดใหญ่ โดยเปลี่ยนแปลงข้อมูล ชื่อ สกุล ในหนังสือเดินทาง จาก MR. AMEET (ชื่อเดิม) เป็น MR. AMET เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจจับในระบบฐานข้อมูลบุคคลต้องห้ามฯ จากนั้นได้มาอาศัยอยู่ใน จว.สงขลา จนถูกตรวจสอบพบและควบคุมตัวในที่สุด

@พ.ต.ต.ญ.พัชรี ศรีเผือก

ธวัชชัย  เฟื่องอนันต์  รายงาน