บิ๊กเกษตรฯ เก้าอี้ร้อน สั่งด่วนให้ส.ป.ก. ตรวจสอบข้อกฎหมายให้แม่นยำหลังมีข่าวส.ป.ก. ระอุ ถูกโจมตีเรื่องการมอบส.ป.ก. 4-01 ให้อดีตผู้สมัครส.ส. พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดกระบี่

ขณะที่กรณีฟาร์มไก่ “ปารีณา” ที่ราชบุรี ยังมีข้อน่าสงสัย ครอบครอง 1,706 ไร่ได้อย่างไร

แหล่งข่าวระดับสูงของกระทรวงเกษตรฯ จากกระทรวงเกษตรเปิดเผยว่า จากปัญหาข่าวร้อน ของ สปก. ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผู้บริหารระดับสูง หลายคนไม่สบายใจ โดยเฉพาะ รมว .เกษตร ฯ  โดยคนใกล้ชิด นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน แจ้งว่า หลังจากที่มีข่าวต่อเนื่องเกิดขึ้นนายเฉลิม ไม่สบายใจที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) ตกเป็นข่าวรายวัน จึงสั่งการให้ตรวจสอบข้อกฎหมายให้แม่นยำ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อกระทรวง โดยล่าสุดกรณีมอบหนังสือเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) แก่นายสมัชชา เอ่งฉ้วน อดีตส.จ. และอดีตผู้สมัครส.ส. พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดกระบี่ เนื้อที่ 16 ไร่ 2 งาน 80 ตารางวา หมู่ 1 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของกระทรวงเกษตรฯ ระบุว่า การพิจารณามอบเอกสารสิทธิ์ส.ป.ก. 4-01 แก่นายสมัชชา เอ่งฉ้วน นั้น ได้ตรวจสอบคุณสมบัติอย่างถี่ถ้วนหรือไม่ ทั้งนี้ตามกฎหมายส.ป.ก. ผู้มีคุณสมบัติได้รับส.ป.ก. 4-01 ตามการตีความของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายึด คุณสมบัติการเป็นเกษตรกรเป็นสำคัญ โดย “เกษตรกร” นั้นไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ยากจน แต่ต้องประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก แต่ขาดที่ดินทำกินหรือมีที่ดินในการทำอาชีพเกษตรน้อย รายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ

สำหรับกรณีนายสมัชชานั้น ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรฯ เห็นว่า ควรตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นเกษตรกรเนื่องจากเป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งคือ ส.จ.กระบี่และอ้างว่า ทำเกษตรกรรมด้วย แต่พิสูจน์ว่า บุคคลนั้นใช้เวลาในการทำเกษตรกรรมมากกว่าการรับราชการในตำแหน่งส.จ. หรือไม่ หากใช้เวลาทำการเกษตรมากกว่าการทำหน้าที่ส.จ. อาจเข้าข่ายเป็นเกษตรกร แต่หากใช้เวลาทำหน้าที่ส.จ. มากกว่าทำการเกษตรถือว่า ไม่มีคุณสมบัติเป็นเกษตรกร

ก่อนหน้านี้ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณี การมอบส.ป.ก.4-01 ให้นายสมัชชาว่า เป็นเรื่องที่ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยช่วงรัฐบาลภายใต้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ช่วงที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนการส่งมอบพื้นที่ ส.ป.ก. ให้นายสมัชชา อยู่ในช่วงที่ตนมาเป็นรมช.เกษตรฯ ที่กำกับดูแลส.ป.ก. ซึ่งการพิจารณาให้นั้นจะมอบแก่ผู้ครอบครองเดิม ตั้งแต่ที่ยังเป็นพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งต่อมากรมป่าไม้ส่งมอบให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จากนั้นส.ป.ก. ดำเนินการจัดสรรและกระจายสิทธิให้ไม่เกิน 50 ไร่ต่อราย

“หากพิจารณาเฉพาะการครอบครองที่ดินมาก่อนประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน แล้วมอบส.ป.ก. 4-01 ให้ โดยไม่ได้พิจารณาถึงคุณสมบัติการเป็นเกษตรกรซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของพ.ร.บ. ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร ส่วนกรณีฟาร์มไก่น.ส. ปารีณาในจังหวัดราชบุรีนั้น พื้นที่ดังกล่าวยังไม่เข้าสู่กระบวนการจัดสรรสิทธิของส.ป.ก. และครอบครองถึง 1,706 ไร่ ถ้าส.ป.ก. ไม่ทำให้เกิดความกระจ่างอาจทำให้เกิดข้อครหาและคลางแคลงใจแก่สังคมว่า หน่วยงานรัฐกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ ”  แหล่งข่าวกล่าว