พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เป็นประธานในการแถลงข่าว จับกุมตัวผู้ต้องหาใช้ปืนบุกปล้นอุกอาจธนาคารทหารไทยฯ

พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เป็นประธานในการแถลงข่าว จับกุมตัวผู้ต้องหาใช้ปืนบุกปล้นอุกอาจธนาคารทหารไทยฯ

วันศุกร์ ที่ 8 พ.ย.2562 เวลาประมาณ 13.00 น. ณ บริเวณธนาคารทหารไทย สาขา เดอะคริสตัลธนาคารทหารไทย 62/29 หมู่1 ถ.ราชพฤกษ์ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี : พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เป็นประธานในการแถลงข่าว จับกุมตัวผู้ต้องหาใช้ปืนบุกปล้นอุกอาจธนาคารทหารไทยฯ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์  รอง ผบช.ภ.1 (สส) / เอราวัณ3, พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.ถาวร ดุลยวิทย์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.ศักดิเดช กัมพลานุวงศ์ ผกก.สภ.บางรวย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา ได้แก่ นายมงคล หอมจิตร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ที่ 7 ตำบลห้วยใต้ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ตามหมายจับ ศาลจังหวัดนนทบุรีฯ ในข้อหา “ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร”

พร้อมด้วยของกลาง ดังนี้
1. อาวุธปืนพลาสติก สีดำ จำนวน 1 กระบอก
2. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีขาว-น้ำเงิน ทะเบียน ฬคค-0966 กรุงเทพมหานคร
3. หมวกกันน็อค สีดำ 1 ใบ
4. เสื้อยืดแขนสั้น สีเทา ลายดำ 1 ตัว
5. กางเกงยีนส์ขายาว สีดำ 1 ตัว
6. หน้ากากอนามัย 1 อัน
7. กุญแจรถจักรยานยนต์ (ซึ่งเป็นของกลางที่ 2)
8.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ออฟโป้ สีดำ รุ่น รีโน 2 หมายเลขประจำเครื่อง 869563040987874/ 869563040987866 จำนวน 1 เครื่อง (ราคา 10,000 บาท)
9. กระเป๋าเป้ สีดำ มีอักษร COCO จำนวน 1 ใบ (ราคาประมาณ 500 บาท)
10. เสื้อยืดแขนสั้น ยี่ห้อลีวาย สีดำ ตัวอักษรสีแดง จำนวน 1 ตัว (ราคาประมาณ 900 บาท)

พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2562 เวลาประมาณ 13.34 น ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรบางกรวย ว่ามีเหตุคนร้านใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์เงินสด ภายในธนาคารทหารไทย สาขาห้างสรรพสินค้าเดอะคริสตัล ราชพฤกษ์ ตำบลบางขนุนอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ตำหนิรูปพรรณคนร้าย อายุประมาณ 25-30 ปี รูปร่างผอม สูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ เสื้อยืดคอกลมสีขาว-เทา บริเวณหน้าอกเสื้อมีโลโก้หรือสกรีนลาย สวมรองเท้าผ้าใบยี่ห้ออดิดาส สีน้ำเงินคาดขาว ใช้หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า และใช้อาวุธปืนเข้ามาก่อเหตุ ได้เงินสดจำนวน 200,000 บาท จากนั้นใช้พาหนะรถจักรยานยนต์ของกลางขับหลบหนี จากการสืบสวนทราบชื่อคนร้ายในเวลาต่อมาว่าคือนายมงคล หอมจิตร(ผู้ต้องหา) จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับนายมงคล หอมจิตร ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ฯ ในข้อหาชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร

จากนั้นเจ้าหน้าที่สืบสวนได้ร่วมกันบูรณาการทำการสืบสวน จนทราบว่านายมงคล หอมจิตร(ผู้ต้องหา) ได้หลบหนีมาที่บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 220 ขุขันธ์ศรีสะเกษ หน้าบ้านเลขที่ 57/5 หมู่ที่ 11 ตำบลหมากเขียบ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ จึงได้ร่วมกันวางแผนเพื่อติดตามจับกุม จนกระทั่งต่อมาวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 เวลา 19.00 น. จึงสามารถติดตามพบนายมงคล หอมจิตร(ผู้ต้องหา) ขณะที่บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 220 ขุขันธ์-ศรีสะเกษ หน้าบ้านเลขที่ 57/5 หมู่ที่ 11 ตำบลหมากเขียบ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ จึงได้ร่วมกันจับกุมตัวนายมงคล หอมจิตร ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีฯ ดังกล่าวข้างต้น จากการสอบสวนนายมงคล หอมจิตร(ผู้ต้องหา) ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ภายในธนาคารที่เกิดเหตุในวันเกิดเหตุจริง หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอาศัยตามสถานที่ต่างๆและล่าสุดได้หนีไปที่บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 220 ขุขันธ์-ศรีสะเกษ หน้าบ้านเลขที่ 57/5 หมู่ที่ 11 ตำบลหมากเขียบ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษจนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้พร้อมของกลางที่ใช้ในวันก่อเหตุ และถูกนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ในการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมา การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง

ในนามของตำรวจภูธรภาค1 ได้ฝากถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิต ว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย และขอชมเชยพร้อมทั้งขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

 

 

ธวัชชัย  เฟื่องอนันต์  รายงาน

 

You May Have Missed!

1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
คณะกรรมการบริหารโรงเรียนปลูกปัญญา แต่งตั้ง “บิ๊กทิน” ผจก.ฟุตซอลทีมชาติไทย  เป็นประธานที่ปรึกษาโรงเรียน
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ เตรียมจัดงานใหญ่ส่งท้ายปี งานมหกรรม ภูมิพลังแผ่นดิน
1 Minute
กิจกรรมเพื่อสังคม
ไม่สนคำ ว่าทำบุญเอาหน้า…เสี่ยเดย์ นักบุญเจ้าเดิมช่วยการศึกษาอีกกว่า 3 ล้าน
0 Minutes
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร จัดงานวันสถาปนาครบรอบ 53 ปี ชูแนวคิด ทุ่มเทอย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างประสบการณ์สุขภาพที่เหนือชั้น เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพิ่มการยอมรับและมั่นใจกับผู้มารับบริการ