คณะกรรมการสหกรณ์โรงสีข้าวพระราชทาน เดินหน้าเตรียมหารือสำนักงาน กปร.เพื่อหาทางดำเนินกิจการต่อ หลังมีข่าวลือว่าราชการบางหน่วยเสนอให้ยุบสหกรณ์

คณะกรรมการสหกรณ์โรงสีข้าวพระราชทาน เดินหน้าเตรียมหารือสำนักงาน กปร.เพื่อหาทางดำเนินกิจการต่อ หลังมีข่าวลือว่าราชการบางหน่วยเสนอให้ยุบสหกรณ์

 

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 นายดิเรก จอมทอง ที่ปรึกษาสหกรณ์การเกษตรโรงสีข้าวพระราชทาน หนึ่งในคณะทำงานนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล กรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะกรรมการสหกรณ์ฯ รวม 9 คน นำโดยนายชาญณรงค์ สายสกล รักษาการประธานสหกรณ์ฯ เดินทางเข้าพบคุณธรรมนูญ ตัณท์บุญมี เลขานุการส่วนตัว พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ อดีตองคมนตรีในรัชกาลที่ 9 ณ อาคารสำนักงานผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เพื่อรายงานข้อมูลและขอคำปรึกษาแผนการพัฒนาฟื้นฟูกิจการของสหกรณ์ฯ

นายดิเรก กล่าวว่าในฐานะที่ตนได้รับมอบหมายจากนายวิชิต ให้ประสานงานกับคณะกรรมการสหกรณ์ฯ อย่างใกล้ชิดเพื่อให้ข้อคิดเห็นและเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาหลังทราบว่า มีส่วนราชการบางหน่วยงานเสนอให้มีการยกเลิก สหกรณ์การเกษตรโรงสีข้าวพระราชทานอ่าวน้อย จำกัด สาเหตุจากปัญหาการดำเนินงานขาดทุนมาอย่างต่อเนื่องหลายปี ซึ่งนายวิชิต กล่าวว่า ตนและประชาชนอีกหลายภาคส่วนเห็นว่าเป็นเรื่องไม่บังควรโดยเฉพาะโรงสีข้าวพระราชทานที่เป็นส่วนหนึ่งของสหกรณ์ฯ สถานที่แห่งนี้ถือเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งต่อประชาชนชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งควรได้รับการใส่ใจดูแลเป็นพิเศษจากส่วนราชการและไม่ควรปล่อยให้เป็นอย่างเช่นทุกวันนี้ เราควรแก้ปัญหาด้วยวิธีการและหลักการ ไม่ควรแก้ปัญหาด้วยการเสนอให้สั่งเลิกสหกรณ์ นายวิชิตกล่าว

ภายหลังการให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันกว่า 2 ชั่วโมง ใน 3 ประเด็นได้แก่ 1.ผลประกอบการและปัญหาในอดีตของสหกรณ์ 2.แผนการปรับปรุงการดำเนินงานและแนวทางการพัฒนาสหกรณ์ 3.แผนงานเพื่อผลักดันให้โรงสีกลับมาเดินเครื่องสีข้าวตามพระราชประสงค์ที่มีอยู่เดิม ท่านธรรมนูญได้มีความคิดเห็นและข้อเสนอแนะว่า จากนี้ไปควรต้องเร่งผลักดันข้อที่ 3 ก่อนคือ จะทำอย่างไรให้โรงสีข้าวกลับมาเดินเครื่องสีข้าวเปลือกได้อีกครั้งเป็นลำดับแรก โดยขอให้คณะกรรมการสหกรณ์และที่ปรึกษากลับไปทำแผนโครงการโดยละเอียดเริ่มตั้งแต่ การประสานผู้เกี่ยวข้องให้ได้มาซึ่งข้าวเปลือกทั้งที่จะปลูกเองในพื้นที่หรือซื้อจากเกษตรกรพื้นที่ใกล้เคียงและแผนการจัดสร้างยุ้งฉางเพื่อเก็บสำรองข้าวเปลือกตามปริมาณที่เหมาะสม การตรวจเช็คสภาพอุปกรณ์ส่วนประกอบของเครื่องยนต์ต้นกำลังและเครื่องสีข้าวให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ เมื่อทำแผนโครงการและสรุปงบประมาณที่ต้องใช้เสร็จแล้ว ขอให้ทำหนังสือรายงานไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเพื่อทราบ และทำสำเนา 1 ชุด เรียน คุณดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.)

ก่อนจบการประชุม นายธรรมนูญ ได้กล่าวย้ำว่า การแก้ปัญหาต้องทำอย่างจริงจัง ต้องพิจารณาถึงข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่ เข้าถึงปัญหาอย่างท่องแท้ เรื่องนี้ผู้เกี่ยวข้องจะมองแค่ผิวเผินไม่ได้ และได้แจ้งต่อผู้บริหารของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยด้วยว่า หากเป็นไปได้ขอให้ทาง กฟผ.เข้ามาช่วยสนับสนุนฟื้นฟูการดำเนินงานของโรงสีข้าวพระราชทานร่วมกับคณะกรรมการสหกรณ์ ต่อไป

 

 

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา / ประจวบคีรีขันธ์