คนขับเก๋งเข้าชี้แจงตำรวจ เหตุเสียหลักชนนักเรียนบาดเจ็บ โดยไม่ได้ตั้งใจ

วันที่ 1 พ.ย. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักพุ่งชนนักเรียนได้รับบาดเจ็บ และกำแพงโรงเรียนได้รับความเสียหายในขณะนักเรียนกำลังจะเดินทางกลับบ้านที่ปรากฏ ตามในภาพคลิปกล้องวงจรปิดที่ถูกแชร์ไปในโลกโซเชียลนั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจจุดเกิดเหตุอีกครั้งซึ่งเป็นบริเวณประตูด้านหลังโรงเรียนประจวบวิทยาลัยฝั่งทิศตะวันตก ถนนพิทักษ์ชาติ เขตเทศบาลเมืองประจวบ พบว่าในช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นช่วงเวลา ขณะโรงเรียนเลิกและนักเรียน กำลังทยอยเดินทางกลับบ้าน จากการตรวจสอบพบกำแพงปูนและรั้วเหล็กของโรงเรียนถูกชนแตกกระจายได้รับความเสียหาย และได้มีการนำถัง 200 ลิตร บรรจุน้ำจนเต็มมาตั้งบังจุดที่รถชนกำแพงพังเสียหายเอาไว้เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ

โดยในขณะเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 16.45 น.ของวันที่ 30 ต.ค.62 ได้มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อ mg สีแดง ทะเบียน 4 กษ-7786 กทม. มีนางสาววันวิสาข์ วงษ์คำ อายุ 42 ปี เป็นคนขับมาจอดที่บริเวณข้างทางด้านหลังโรงเรียน เพื่อรับลูกกลับบ้าน และเมื่อลูกขึ้นรถเสร็จเรียบร้อยแล้วกำลังจะขับรถออกเดินทาง รถเก๋งคันดังกล่าวได้เสียหลักถอยตกร่องน้ำไหล่ทางจึงได้ พยายามเร่งเครื่องส่งกำลังขึ้นมาบนถนนแต่รถเก๋งเป็นเกียร์ออโตเมติกจึงทำให้รถพุ่งทะยานออกมาอย่างรวดเร็ว และคนขับกลัวจะชนรถซาเล้งที่จอดอยู่ด้านหน้าจึงได้โยกหักหลบข้ามเลนไปชนนักเรียน และกำแพงโรงเรียนเป็นเหตุให้ เกิดความเสียหายและมีนักเรียนได้รับบาดเจ็บถูกหามส่งโรงพยาบาลประจวบฯ ทราบชื่อ นางสาวณัฏฐกันย์ ศรนรินทร์ อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนยืนอยู่หน้าประตูหลังโรงเรียนจุดเกิดเหตุ เพื่อรอรถกลับบ้านถูกรถเก๋งชนกระเด็นติดกำแพงได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย หัวแตกและแผลถลอกตามร่างกาย แต่ผู้ขับขี่รถเก๋งและผู้โดยสารในรถไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังมีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน 1 กฉ8701 ประจวบ ได้รับความเสียหาย และผู้ขับขี่ชื่อ นางสาวปัญญาดา ชูจันทราภรณ์ อายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda ทะเบียน ขขท-277 ประจวบ ผู้ขับขี่ชื่อ นายเอกวิช ขุนนุช อายุ 37 ปี ได้รับบาดเจ็บกระดูกแขนร้าว และนางสาวพุดตาล มานะกิจสมบูรณ์ อายุ 33 ปี ผู้ที่นั่งซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ฮอ-2512 กทม.ได้รับความเสียหายด้วยอีก 1 คัน มีนางสาวพิมพ์นรียา เดชเรือนเพ็ชร์อายุ 41 ปี เป็นคนขับไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกนำพาส่งรักษาที่โรงพยาบาลประจวบฯ

ล่าสุดวันนี้สามี พร้อมด้วยนางสาววันวิสาข์ วงศ์ขำ ผู้ขับขี่รถเก๋งได้เข้าพบร้อยตำรวจเอกหญิง รัตนาภรณ์ ทองจีน พนักงานสอบสวนที่สภ.เมืองประจวบ ร้อยเวรประจำวันเจ้าของคดี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้การว่าในขณะเกิดเหตุได้นำรถไปจอด เพื่อรอรับลูกกลับบ้านหลังเลิกเรียนระหว่างกำลังจะออกรถ รถได้ถอยหลังจนล้อหลังตกร่องน้ำไหลข้างทางจึงได้เร่งเครื่องเพื่อให้รถขึ้นมาอยู่บนถนน แต่ที่บริเวณด้านหน้าได้มีรถซาเล้งขวางอยู่จึงหักหลบทำให้เสียหลักพุ่งข้ามเลนเข้าชนนักเรียนและกำแพงโรงเรียนพังเสียหายดังกล่าว ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ตั้งใจและยินดีรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ด้าน ดช.ณัฐชมน คล้ายหงษ์ นักเรียนที่เห็นและอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ในขณะนั้นโรงเรียนกำลังเลิกเรียนนักเรียนเริ่มทยอยเดินทางกลับบ้าน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรคอยโบกรถอำนวยความสะดวกให้กับนักเรียนที่ข้ามถนน ได้มีรถเก๋งพุ่งมาอย่างแรงชนเพื่อนนักเรียนและกำแพงโรงเรียนจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ขณะนั้นตนยืนอยู่หลังกำแพงจึงวิ่งมาดูมีเพื่อนบาดเจ็บ และกำแพงโรงเรียนแตกเสียหาย ซึ่งบริเวณจุดนี้เกิดอุบัติเหตุไม่บ่อยนัก และเป็นจุดที่นักเรียนมารอผู้ปกครองและรถรับส่งนักเรียนมารอรับ เนื่องจากทางโรงเรียนมีกฎระเบียบไม่ให้รถเข้าไปรับนักเรียนภายในโรงเรียน

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ(นักข่าวบ้านนอก)จังหวัดประจวบฯ