“จับกุมผู้ต้องหาลักลอบนำรถยนต์ไปขาย สปป.ลาว”

วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562 เวลา 14.00 น. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ รอง ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.นิธิศ ปิติธีรโชติ รอง ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.ชัยยศ วรักษ์จุนเกียรติ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ปฏิบัติราชการ สตม. และ พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.4 ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา ดังนี้

ตม.จว.นครพนม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมนายเชษฐ ข้อหา“ลักลอบนำรถยนต์ออกไป  นอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” และจับกุมนายเชษฐ และนายบัณฑิตย์ ข้อหา“พยายามลักลอบนำรถยนต์ออกไปนอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 พฤติการณ์ในการกระทำผิด คือ ขณะเจ้าหน้าที่ ตม.จว.นครพนม ปฏิบัติหน้าที่ ณ บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 นายเชษฐ ได้นำรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียนนครพนม โดยมีนายบัณฑิตย์นั่งเป็นผู้โดยสารมายื่นเอกสารเพื่อให้เจ้าหน้าที่ ตม.จว.นครพนม ตรวจอนุญาตเดินทางออกไปยัง สปป.ลาว

ปรากฏว่าหนังสือเดินทางรถยนต์เป็นเล่มใหม่และโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันเดียวกัน คู่มือการจดทะเบียนรถมีการโอนและต่อทะเบียนมีลักษณะที่ผิดสังเกต ภายในรถไม่มีสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นในการเดินทาง เมื่อตรวจสอบในระบบสารสนเทศ สตม.พบว่านายเชษฐมีประวัติการนำรถยนต์ออกไปนอกราชอาณาจักร 2 ครั้ง แต่เดินทางกลับทางเรือโดยสารเข้ามาทางท่าเทียบเรือนครพนม โดยไม่นำรถยนต์กลับเข้ามาด้วย จึงประสานเจ้าหน้าที่ศุลกากรนครพนม ตรวจสอบโดยละเอียดพบว่านายเชษฐมีประวัติในใบขนสินค้าพิเศษสำหรับยานพาหนะออกไปยัง สปป.ลาว จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกวันที่ 18 ธ.ค.61 รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน xxxx นครพนม ครั้งที่สองวันที่ 27 ธ.ค.61 รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน xxxx นครพนม ไม่มีการแจ้งนำกลับเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งนายเชษฐ ยอมรับว่าได้ขายรถยนต์ดังกล่าวให้ผู้ซื้อที่ สปป.ลาว แล้ว และครั้งนี้จะนำรถยนต์ออกไปขายยัง สปป.ลาว อีก โดยโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ให้นายบัณฑิตเป็นเจ้าของแทน เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจพบ พฤติการณ์จึงเป็นความผิดตามข้อกล่าวหาดังกล่าว ในการสกัดกั้นจับกุมผู้ลักลอบนำรถยนต์ไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน ตม.จว.นครพนม ได้ดำเนินการขยายผลเพื่อจับกุมเครือข่ายผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งศุลกากรจังหวัดนครพนม สำนักงานขนส่งจังหวัดนครพนม และ กก.สส.ภ.จว.นครพนม

#ธวัชชัย เฟื่องอนันต์ รายงาน