“ผงะ สต็อก3สารพิษเหลือเพียบกว่า3.4หมื่นตัน เจ้าสัวรายใหญ่ดิ้นหนี้ขาดทุน ทุกช่องทาง เข้าหาผู้ใหญ่ ในรัฐบาล ยื้อเวลาแบน เร่งส่งออกประเทศที่สาม”
เมื่อวันที่ 10ต.ค.62 แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตร ได้ตรวจล่าสุดพบว่าบริษัทนำเข้าสารเคมีรายใหญ่ และบริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศ ยังมีสต็อกสารเคมี 3ชนิด คลอร์ไพริฟอส พาราควอต ไกลโฟเซต ยังเหลือรวมกว่า 3.4หมื่นตัน จากยอดนำเข้าเมื่อต้นปีนี้กว่า3.6หมื่นตัน ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ของทุกบริษัท เหมือนผีถึงป่าช้า หลังจากคณะกรรมการ4ฝ่ายที่มีน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ เป็นประธาน มีมติแบน3สาร ยกระดับความเป็นอันตรายร้ายแรงขั้นสุดต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม เท่ากับระเบิด โดยเป็นวัตถุอันตรายบัญชีที่4 ห้ามนำเข้า ห้ามจำหน่าย ห้ามมีไว้ในครอบครอง ห้ามผลิต ให้มีผลตั้งแต่วันที่1 ธ.ค.นี้
รวมทั้งมติดังกล่าวได้ส่งให้ รมว.สาธารณสุข รมว.เกษตรฯรมว.อุตสาหกรรม ลงนามพร้อมหนุนมติแบน3สาร ที่จะส่งให้นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้ทันสัปดาห์นี้ แม้ว่าน.ส.มนัญญา จะนอนแอดมิดรักษาอาการป่วยปวดหัวอย่างหนัก ได้สั่งให้ทีมงาน ไปให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลงนามครบ สามารถดำเนินการเรื่องเอกสารข้อมูลทางวิชาการเป็นที่ประจักษ์ที่มีหลักฐานจริงที่เรียกมาเป็นเอกสารใหม่ทั้งหมด จากผู้สัมผัสสาร เกิดความเป็นพิษต่อสุขภาพ และผลกระทบในพื้นที่เกษตร มีสารตกค้างในแหล่งน้ำ พร้อมมีบัญชีสารทดแทน 3ชนิด และวิธีทางเลือกทำเกษตรปลอดภัย มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ปรับเปลี่ยนทำเกษตรอินทรีย์ ได้เสร็จสมบูรณ์ ในเวลา2วันจากที่มีมติแบนสาร ซึ่งน.ส.มนัญญา ปักธงว่าประเทศไทยจะต้องแบนสามสาร ก่อนสิ้นปีนี้ เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเป็นแผ่นดินรองรับสารเคมีที่จะไหลทะลักเข้ามาอีกมหาศาล หลังจากที่ทั่วโลกแบนไปแล้ว58ประเทศ และรัฐบาลของประเทศมาเลเซีย ได้ประกาศแบนสารเคมี วันที่1ม.ค.63ให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่คนมาเลเซีย
แหล่งข่าว กล่าวว่าอีกว่าในส่วนบริษัทนำเข้า ระดับเจ้าสัว หลายราย ซึ่งมีอดีตข้าราชการระดับสูงกระทรวงเกษตรฯเป็นแกนนำ เข้าหาผู้ใหญ่ในรัฐบาล กำลังดิ้นหนีขาดทุน ทุกช่องทางหากยื้อระยะเวลาการแบนออกไปได้ จะทำให้เร่งระบายสต็อกให้หมดโดยส่งออกไปประเทศที่สาม เพราะถ้าทางการไทยประกาศแบนเมื่อวันใดเท่ากับของในสต็อกเป็น 0 บาททันที
ทั้งนี้ข้อมูลจากกรมวิชาการเกษตร ระบุปริมาณนำเข้าพาราควอต ไกลโฟเซต คลอร์ไพริฟอส ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 มีปริมาณนำเข้า 36,066 ตัน และปริมาณคงเหลือ 34,688 ตัน รายละเอียดเกี่ยวกับการนำเข้าสารเคมีทดแทนที่ชื่อ กลูโฟซิเนต แอมโมเนีย ในช่วง 8 เดือนแรก มีปริมาณ 1,308 ตัน นอกจากนี้ เป็นที่สังเกตุว่ากระทรวงเกษตรฯยังไม่มีการระงับออกประกาศ กฏกระทรวง 5ฉบับ เรื่องหลักเกณฑ์ในการจำกัดการใช้วัตถุอันตราย พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส โดยยังมีการอบรมเกษตรกร ผู้รับจ้างพ่นสาร และขึ้นทะเบียนผู้ใช้สารเคมี 3 ชนิด ก่อนจึงจะมีสิทธิ์ซื้อพาราคอต-ไกลโฟเซต กลูโฟซิเนตได้ ซึ่งกฏกระทรวงจะมีผลบังคับใช้วันที่20ต.ค.นี้ด้วย ทำให้ต้องจับตาการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่อาจมีขึ้นในวันที่21ต.ค.นี้ ว่าเป็นเพียงรับทราบ มติของการประชุม4 ฝ่าย ของ น.ส.มนัญญา หรือไม่