เครือข่ายต้านสารเคมีวัตถุอันตรายทางการเกษตร 686 องค์กร รุกหนัก จี้รมว. เฉลิมชัย และพรรคประชาธิปัตย์ แจงจุดยืนให้ชัดหนุนหรือยกเลิกใช้สารเคมีอันตราย 3 ชนิด
ท้าจริงใจยกเลิกต้อง ทำหนังสือแถลงอย่างเป็นทางการ
นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี กล่าวว่า ได้รับทราบการให้สัมภาษณ์ของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2562 ระบุว่า “กรณีสารพิษ 3 ตัว ผมเองยืนยันโดยเบื้องต้นได้เลยว่า ผมไม่สนับสนุนให้มีการใช้สารนี้” ดังนั้นหากนายเฉลิมชัยทั้งในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนการใช้สารเคมีทางการเกษตรอันตรายจริง ขอให้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการเพื่อลดความสับสนและการวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนที่รอเห็นการยกเลิกสารพิษร้ายแรงได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส เนื่องจากคำให้สัมภาษณ์นี้ขัดแย้งกับข้อสั่งการที่ระบุในหนังสือของนางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ ในขณะนั้นที่ระบุว่า เมื่อได้นำร่างหนังสือของกรมวิชาการเกษตร (วันที่ 17 กันยายน 2562) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของ นาง มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่ได้เสนอต่อประธานคณะกรรมการวัตถุอันตรายให้พิจารณาแบนพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส นำมาปรึกษานำมาหารือนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2562 ปรากฏว่านายเฉลิมชัยได้เสนอแนะให้กระทรวงเกษตร “ดำเนินการตามมติกรรมการวัตถุอันตรายในการให้จำกัดการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด”
ทั้งนี้นายวิฑูรย์กล่าวต่อว่า เพื่อยืนยันว่าในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ไม่สนับสนุนให้มีการใช้สารพิษร้ายแรงทั้ง 3 ชนิดจริง นายเฉลิมชัยสามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้
1. ปฏิเสธว่าหนังสือที่ลงนามโดยนางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน ที่อ้างข้อเสนอแนะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯให้ “ดำเนินการตามมติกรรมการวัตถุอันตรายในการให้จำกัดการใช้” เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2562 นั้น เป็นความเข้าใจผิด หรือการสื่อสารที่ผิดพลาดของรองปลัดฯ และเรียกคืนหนังสือดังกล่าวโดยเร่งด่วน เพราะนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรคือ “ไม่สนับสนุนการใช้สารพิษทั้ง 3 ชนิด” ดังคำแถลงล่าสุด
2. ทำจดหมายอย่างเป็นทางการในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนข้อเสนอของรมช.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ถึงประธานคณะกรรมการวัตถุอันตรายให้พิจารณาแบนสารพิษทั้ง 3 ชนิด พร้อมสั่งการและมอบนโยบายอย่างเป็นทางการต่อผู้บริหารของกระทรวงเกษตรฯ 5 คนที่เป็นกรรมการในคณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้แก่ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร อธิบดีกรมประมง อธิบดีกรมปศุสัตว์ และเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เพื่อให้ลงมติให้แบนสารพิษร้ายแรงทั้ง 3 ชนิด (พิจารณาให้เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ซึ่งห้ามผลิตนำ เข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครอง) ตามนโยบายของกระทรวงฯ
“การโยนการตัดสินใจในการแบนสารพิษร้ายแรงว่าเป็นบทบาทของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือคณะกรรมการวัตถุอันตราย ทั้งๆที่กระทรวงเกษตรฯเป็นผู้กำกับดูแลการใช้สารพิษทั้ง 3 ชนิดโดยตรง อีกทั้งตนเองมีหน้าที่ในการกำกับหน่วยงาน 5 หน่วยงานที่เป็นกรรมการวัตถุอันตราย 5 คน แต่กลับไม่ดำเนินการนั้น นอกเหนือจากไม่ส่งผลดีต่อนายเฉลิมชัยแล้ว แต่จะส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และจะมีผลต่อการเลือกตั้งในระดับต่างๆที่จะเกิดขึ้นต่อไปด้วย จึงเรียกร้องให้นายเฉลิมชัยและพรรคประชาธิปัตย์แสดงจุดยืนที่ชัดเจนและพิสูจน์ให้เห็นด้วยการกระทำว่า ต้องการคุ้มครองสุขภาพของประชาชน ไม่ใช่ปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทสารพิษ” นายวิฑูรย์กล่าว