วว. ผนึกกำลัง มรภ.เพชรบุรี พัฒนา วทน. ด้านเทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าพืชผลเกษตร-สร้างระบบนิเวศงานวิจัย
วันที่ 26 ก.ค. 2567 ณ ห้องประชุมราชภัฏสภา อาคารวิทยาภิรมย์ ชั้น 9 มรภ.เพชรบุรี) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และ ผศ.ดร.เสนาะ กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการเพิ่มมูลค่าพืชผลเกษตร” โดยมีระยะเวลาดำเนินงาน 3 ปี เพื่อสนับสนุนการเสริมองค์ความรู้ ขยายผลความรู้ไปเป็นงานวิจัยและพื้นที่ต่างๆในรูปแบบหลักสูตรของมหาวิทยาลัยแบบ non credit หรือหลักสูตรระยะสั้น (Short term training) อันจะนำไปสู่การสร้างระบบนิเวศงานวิจัยเชิงพาณิชย์ ขับเคลื่อนด้านเกษตร/อุตสาหกรรมการเกษตรของพื้นที่ เกษตรกรมีศักยภาพเพิ่มผลิตภาพในการผลิต (Productivity) สร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันอย่างยั่งยืน
โอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก นายภคพัส ส่งวัฒนายุทธ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี , รศ.ดร.พัชรศักดิ์ อาลัย รองอธิการบดีด้านยุทธศาสตร์การวิจัยนวัตกรรม นโยบายและแผน มรภ.เพชรบุรี , นางศิรินันท์ ทับทิมเทศ นักบริหารพิเศษและรักษาการในตำแหน่ง ผอ.ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมอาหารสุขภาพ , ดร.รจนา ตั้งกุลบริบูรณ์ ผอ.ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ , ดร.บุณณนิดา โสดา ผอ. กองวิเทศสัมพันธ์ คณะผู้บริหารและบุคลากรทั้งสองหน่วยงาน ร่วมแสดงความยินดีด้วย
ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า ความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงาน ป็นผลสืบเนื่องจากความพร้อมของ วว. คือ 1)บุคลากรหรือนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ 2) เทคโนโลยีพร้อมใช้ด้านการเกษตร (Ready tech) และ 3) โครงสร้างพื้นฐานด้านการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ในการเพิ่มผลิตภาพด้านสับปะรด ดังนั้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนความพร้อมดังกล่าว วว. ในฐานะหน่วยงานวิจัย จึงประสงค์แสวงหาหน่วยงานความร่วมมือและผู้ใช้ประโยชน์
เพื่อสร้างระบบนิเวศงานวิจัยเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยในพื้นที่ซึ่งมีความพร้อมในการใช้ประโยชน์หรือขยายผลงานวิจัยนำไปขับเคลื่อนงานด้านการเกษตรหรืออุตสาหกรรมการเกษตรของพื้นที่ ซึ่งอุตสาหกรรมเกษตรถือเป็นอาชีพที่สร้างรายได้เข้าประเทศและเป็นอาชีพรากฐานของเศรษฐกิจประเทศมาอย่างยาวนาน
“…หากยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมเกษตรดังกล่าว ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมการเกษตร ให้เหมาะสมและใช้นวัตกรรมหนุนเสริมจะทำให้เกษตรกรมีศักยภาพการเพิ่มผลิตภาพในการผลิต (Productivity) ซึ่งจะสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่มีสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับประเทศไทย โดยเฉพาะประเทศ เวียดนาม ฟิลิปินส์ และอินโดนีเชีย ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่าทุกประเทศต้องใช้นวัตกรรมในการแข่งขันโดยทั้งสิ้น เพราะนวัตกรรมทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ดีที่มีจุดเด่น ลดความเสียหาย และลดต้นทุน เพิ่มปริมาณผลผลิต ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้เข้ามายังประเทศและตัวเกษตรกรตามมา…” ผู้ว่าการ วว. กล่าว
ดร.ชุติมาฯ กล่าวต่อว่า พื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ มีผลผลิตเกษตรเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะ “สับปะรด” ที่มีการปลูกในรูปแบบพืชอุตสาหกรรมหรือพืชไร่ ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องใช้นวัตกรรมเป็นอย่างมาก โดย วว. มีโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ คือ ศูนย์การถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตภาพและมูลค่าพืชไร่ชุมชน (สับปะรด) ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วว. จึงมีความพร้อมในการถ่ายทอดเทคโนโลยีการวิจัยในการเพิ่มผลผลิตและผลิตภาพของสับปะรด ให้กับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ รวมทั้งผู้ที่ประสงค์ต้องการใช้ประโยชน์เชิงอุตสาหกรรม ดังนั้นเพื่อให้การพัฒนาในพื้นที่มีความยั่งยืน วว. จึงได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
เข้ามาเป็นพันธมิตรในการดำเนินงาน เพื่อสนับสนุนการเสริมองค์ความรู้ หรือขยายผลความรู้ไปเป็นงานวิจัยและนำไปสู่พื้นที่ต่างๆ ในรูปแบบของหลักสูตรของมหาวิทยาลัยแบบ non credit หรือหลักสูตรระยะสั้น (Short term training) เช่น เทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเยื้อเยื่อ และการอนุบาลต้นกล้า เทคโนโลยีการผลิตและเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อการส่งออก รวมทั้งเทคโนโลยีการเพิ่มมูลค่าสับปะรด เป็นต้น ซึ่งถือเป็นวัตถุประสงค์หลักในการลงนามในครั้งนี้ เพื่อให้เกษตรกรวิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการมีหน่วยงานที่ปรึกษาด้านการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหรือเป็นช่องทางให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มแต้มต่อในการผลิตและร่นระยะทางในการประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น เปลี่ยนเกษตรกรให้เป็น Smart farmer หรือเป็นผู้ประกอบการ/นักธุรกิจในพื้นที่ เป็นการใช้นวัตกรรมเพื่อเปลี่ยนแปลง คน พื้นที่ ผลผลิต ซึ่งจะเป็นการนำวิทยาศาสตร์เข้าไปใช้ในการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างแท้จริง
ผศ. ดร.เสนาะ กลิ่นงาม อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี กล่าวว่า มรภ. เพชรบุรี มุ่งมั่นเป็น มหาวิทยาลัยชั้นนำด้านอาหาร การท่องเที่ยวและวิทยาการสุขภาพ ภายใต้ความเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัล ด้วยการบูรณาการศาสตร์ เพื่อพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน โดยมีพันธกิจที่สำคัญหนึ่งก็คือ วิจัยสร้างองค์ความรู้ นวัตกรรม และงานสร้างสรรค์ มุ่งเน้นการบูรณาการ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาท้องถิ่นและประเทศอย่างแท้จริงเป็นรูปธรรม แก้ปัญหาเชิงพื้นที่ให้เกิดการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ความมือร่วมมือกับ วว. ในครั้งนี้เชื่อมั่นว่าจะทำให้พี่น้องเกษตรกร ผู้ประกอบการ เข้มแข็งมีศํกยภาพการแข่งขันที่ยั่งยืน