ทีเส็บเปิดตัวแคมเปญ “ยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย” ส่งเสริมตลาดไมซ์ในประเทศ

ทีเส็บเปิดตัวแคมเปญ “ยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย” ส่งเสริมตลาดไมซ์ในประเทศ

ทีเส็บจับมือพันธมิตรร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศภายใต้แคมเปญ “ยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย” ชูอัตลักษณ์ชุมชน สร้างแรงจูงใจดึงการจัดงานประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลของกลุ่มองค์กรธุรกิจออกไปสู่ภูมิภาค ยกระดับไมซ์ในประเทศสู่จุดหมายปลายทางมูลค่าสูง

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ทีเส็บได้ร่วมกับพันธมิตร 16 หน่วยงาน จัดทำแคมเปญการตลาดสำหรับอุตสาหกรรมการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลภายในประเทศ ด้วยแนวคิด “ยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย” เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศตามแผนปฏิบัติการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยความหลากหลายของอัตลักษณ์เชิงพื้นที่และสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่า (Authentic Experience) ยกระดับไมซ์ไทยสู่จุดหมายปลายทางมูลค่าสูงแห่งเอเชีย (High Value-Added Destination)

“แคมเปญดังกล่าวมีเป้าหมายในการส่งเสริมให้เกิดการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล ที่สร้างประโยชน์ให้กับชุมชนท้องถิ่น และการประชุมที่มีแนวคิดส่งเสริมสุขภาพและสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นทำตลาดรูปแบบใหม่ โดยหน่วยงาน องค์กรที่เข้าร่วมโครงการต้องใช้บริการผู้ประกอบการไมซ์บนแพลตฟอร์ม Thai MICE Connect ซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการไมซ์ที่สนใจเข้าร่วมแคมเปญนี้ ได้นำเสนอบริการ ความคิดสร้างสรรค์ในการจัดงานและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมาย องค์กร บริษัท และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลให้มากขึ้น พร้อมกับนำเสนอเส้นทางสายไมซ์ 7 Theme Soft Power Series เปิดแนวคิดใหม่ ๆ ร่วมกับกิจกรรมของภาคีเครือข่าย” นายจิรุตถ์ กล่าว

ด้านการส่งเสริมตลาดจะดำเนินงานในรูปแบบของการประกวดภาพถ่ายกิจกรรมการประชุมที่มีความสร้างสรรค์ และแชร์ภาพ/วีดิโอสั้น ตามวัตถุประสงค์โครงการไปยังวงกว้างบนช่องทางออนไลน์ ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อนำเสนอภาพความประทับใจในการจัดประชุมของกลุ่มองค์กรธุรกิจ ที่มีการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล อย่างน้อยจำนวน 20 คนต่อกลุ่ม (ระยะเวลากิจกรรมอย่างน้อย 2 วัน 1 คืน) ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย โดยนำเสนอรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท เป็นเครื่องกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญ ประกอบด้วย

รางวัลสำหรับผู้ประกอบการไมซ์  ได้แก่ “สุดยอด DMC ยกทีมประชุม” DMC หรือ บริษัทรับจัดการธุรกิจไมซ์ (Destination Management Company) ที่มีจำนวนองค์กรเข้าร่วมโครงการมากที่สุด จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท “สุดยอดผู้ประกอบการรุมรักเมืองไทย” ผู้ประกอบการที่มีจำนวนนักเดินทางไมซ์เข้าร่วมโครงการมากที่สุด จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท และ“สุดยอด DMC สร้างสรรค์เส้นทาง Soft Power” ให้ DMC ที่นำเสนอเส้นทางไมซ์ได้สร้างสรรค์ที่สุด จำนวน 3 รางวัล รางวัลละ 20,000 บาท

สำหรับองค์กร บริษัท สถาบัน หรือหน่วยงานใด ๆ ที่เข้าร่วมแคมเปญ มีทั้งหมด 12 รางวัล เป็นแพ็กเกจสำหรับทีมสำรวจสถานที่ (Inspection Trip) ที่พัก 3 วัน 2 คิืน 2 ห้องนอน สำหรับ 4 ท่าน พร้อมอาหารเช้าและอาหารเย็นมื้อพิเศษ ได้แก่ รางวัล “ยกทีมประชุม รุมรักโพสต์นี้” จำนวน 9 รางวัล สำหรับองค์กรที่มีโพสต์เข้าร่วมกิจกรรมที่มียอดกดไลก์สูงที่สุดของแต่ละเดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนพฤศจิกายน

รางวัล “ยกทีมประชุม สุขภาพดี” จำนวน 1 รางวัล สำหรับองค์กร บริษัท สถาบัน หรือหน่วยงานใด ๆ ที่จัดประชุมได้ตามหลัก “ประชุมสุขภาพดี” รางวัล “ยกทีมประชุม สุดสร้างสรรค์” จำนวน 1 รางวัล สำหรับองค์กร บริษัท สถาบัน หรือหน่วยงานใด ๆ ที่จัดประชุมได้สร้างสรรค์ ไอเดียแปลกใหม่ และรางวัล “ยกทีมประชุม รุมรักชุมชน” จำนวน 1 รางวัล สำหรับองค์กร บริษัท สถาบัน หรือหน่วยงานใด ๆ ที่จัดประชุมมีส่วนร่วมกับชุมชน ณ จุดหมายปลายทาง

ดร. ประครอง สายจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักท่องเที่ยวโดยชุมชน องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. กล่าวว่า อพท. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหน่วยงานพัฒนาชุมชนท่องเที่ยว และพันธมิตรที่เข้าร่วมขับเคลื่อนแคมเปญ “ยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย” อยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพที่ อพท. มองหา ให้มาสัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่จากการท่องเที่ยวโดยชุมชน ที่มีอัตลักษณ์ สามารถสร้างความประทับใจให้ผู้คน จากภูมิปัญญาและเรื่องเล่า อันส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น องค์กรต่าง ๆ ที่จัดยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย ใน 25 พื้นที่ ของ อพท. จะได้รับการต้อนรับด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลให้ได้รับความประทับใจ มูลค่า 10,000 บาทต่อกลุ่ม โดย อพท. เชื่อว่า “การท่องเที่ยวโดยชุมชนจะเป็นแรงบันดาลใจในการเดินทางของคุณ ที่ทุกย่างก้าวเป็นเรื่องราวและทุกการพบเจอคือการแบ่งปันที่ทรงคุณค่า”

นางสาวประชุม ตันติประเสริฐสุข ประธานฝ่ายการตลาด สมาคมโรงแรมไทย และอุปนายกสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) กล่าวว่า สมาคมโรงแรมไทยในฐานะพันธมิตรหลักของแคมเปญ พร้อมเสนอส่วนลดและสิทธิพิเศษให้กับองค์กรต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย ทั่วประเทศไทย มั่นใจว่า เมืองไทยมีต้นทุนวัตถุดิบในระดับชุมชนที่หลากหลาย ทั้งอาหาร สินค้า ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม สถานที่ต่าง ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถนำมารังสรรค์สร้างเสน่ห์และความหมายให้กับการประชุมหรือกิจกรรมของการประชุม เป็นสารตั้งต้นให้ผู้ร่วมงานเห็นคุณค่า นิยมชมชอบ ถนอมรักษาต้นทุนเหล่านี้ และจุดประกายการนำไปต่อยอด สร้างน้ำหนักให้กับการประชุม รุมรักเมืองไทย และสามารถใช้เป็นฐานส่งต่อให้ชุมชนรวมพลังสร้างจุดขายในระดับประเทศต่อไป

แคมเปญนี้มีระยะเวลาการสมัครเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 30 พฤศจิกายน 2567 โดยสามารถกรอกรายละเอียดได้ที่ yokteam.tceb.or.th ทั้งนี้ คาดว่าจะมีหน่วยงาน บริษัทจัดประชุมองค์กรสมัครเข้าร่วมแคมเปญนี้กว่า 500 กลุ่ม จำนวนนักเดินทางที่เข้าร่วมโครงการกว่า 10,000 คน กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในประเทศมากขึ้น พร้อมสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการไมซ์ขยายศักยภาพ รวมถึงตอบสนองให้ตลาดไมซ์ในประเทศ หรือ Domestic MICE กลับมาเติบโตได้ตามเป้าหมายปีงบประมาณ 2567 โดยกำหนดเป้าหมายว่าจะมีนักเดินทางไมซ์ในประเทศ จำนวน 22,230,000 คน เกิดรายได้เข้าประเทศ 73,000 ล้านบาท

You May Have Missed!

1 Minute
กีฬา โรงเรียน
มูลนิธิรุจิรวงศ์ฯ-ไทยไฟลท์ -โรงเรียนวัดสุทธิวราราม จัดโบว์ลิ่งการกุศลเพื่อการศึกษา “113ปีวัดสุทธิวราราม”
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
แม่กำไล มหาสังข์ อัญเชิญเทพเทวดาด้วยเสียงสังข์ ในงานนิทรรศการศิลป์แห่งศรัทธา “มหาสังข์..สรรพมงคลครอบจักรวาล”
0 Minutes
ข่าวประชาสัมพันธ์
 ​เชิญร่วมอัญเชิญเทพเทวดาด้วยเสียงสังข์​ ในงานนิทรรศการ​ “ศิลป์แห่งศรัทธา​ มหาสังข์​” สรรพมงคลครอบจักรวาล
2 Minutes
ข่าวประชาสัมพันธ์ ชลประทาน ประชาชน เกษตร
กรมชลประทาน เดินหน้าศึกษาความเหมาะสมปรับปรุงโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโคกกะเทียมและเริงราง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำในพื้นที่อย่างเพียงพอ ทั้งช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ และปัญหาอุทกภัย