แนวทางปฏิบัติในการปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์ให้ทันสมัย
โดย ดร.บิน ลู รองประธานอาวุโส ระบบดาต้าเซ็นเตอร์ และดาต้าเซ็นเตอร์แบบโมดูลาร์สำเร็จรูป ชไนเดอร์ อิเล็คทริค
อุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ กำลังเติบโตและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีการปรับสู่กระบวนการดิจิทัลอีกทั้งความต้องการในตลาดเพิ่มขึ้น การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายระบบดาต้าเซ็นเตอร์ในทั่วโลก จะเติบโตถึง 226 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ โดยเติบโตสูงถึง 11 เปอร์เซ็นต์ต่อปี อย่างไรก็ตาม ความต้องการที่พุ่งสูงไม่ใช่แรงกดดันเพียงอย่างเดียวที่ผู้ประกอบการดาต้าเซ็นเตอร์ต้องเผชิญ ความมุ่งมั่นที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อสร้างความยั่งยืนให้มากขึ้น คือการที่ดาต้าเซ็นเตอร์จะต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่างไรก็ดี การจัดการดาต้าเซ็นเตอร์รุ่นเก่าทำให้ยากต่อการดำเนินการได้ตามเป้าหมายด้านความยั่งยืน ฉะนั้นผู้ประกอบการดาต้าเซ็นเตอร์จะปรับปรุงให้ดาต้าเซ็นเตอร์เก่ามีความทันสมัยขึ้น เป็นระบบดิจิทัลที่ให้ประสิทธิภาพมากขึ้น และยั่งยืนขึ้นได้อย่างไร?
การแก้ปัญหาทั่วไปของดาต้าเซ็นเตอร์รุ่นเก่า
องค์กรที่มีดาต้าเซ็นเตอร์รุ่นเก่ามักจะต้องเจอกับปัญหามากขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบทำความเย็นที่ไม่มีประสิทธิภาพขาดพื้นที่ในการขยายระบบ หรือระบบโครงสร้างระบบไฟฟ้าไม่ยืดหยุ่นเพียงพอที่จะรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วได้โดยมีอยู่สองสามแนวทางในการแก้ปัญหาเหล่านี้เพื่อให้เกิดความสามารถเรื่องอัพไทม์และให้ความยั่งยืน ทางเลือกหนึ่งก็คือการเพิ่มศักยภาพด้วยการเพิ่มโมดูลที่เป็น prefabricated modular data centers ที่ประกอบด้วยแร็คที่อาจมีได้มากกว่าหนึ่งแร็คที่มาพร้อมระบบทำความเย็นต่างหาก (row-based cooling) ซึ่งโมดูลแบบ “ขยายระบบตามการเติบโต” นี้ จะช่วยให้สามารถเพิ่มศักยภาพด้วยระบบที่ให้นวัตกรรมและประสิทธิภาพด้านพลังงานมากขึ้น ความพิเศษของแนวทางนี้คือสามารถปรับใช้งานได้อย่างรวดเร็วและคุ้มค่าใช้จ่าย
อีกแนวทาง คือการอัพเกรดอุปกรณ์ในระบบโครงสร้างที่ใช้งานอยู่เดิม เช่น UPS และระบบจ่ายไฟ ด้วยการเปลี่ยนอะไหล่หรืออุปกรณ์ใหม่แทนของเดิม ซึ่งปัจจุบัน มีโมเดล UPS และระบบจ่ายไฟแบบใหม่มากมายที่ได้รับการปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้นเนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ให้นวัตกรรมใหม่ จึงช่วยเพิ่มอายุการใช้งานและลดต้นทุนในการเป็นเจ้าของ อีกทั้งให้ศักยภาพด้านความยั่งยืน
ปรับปรุงซอฟต์แวร์และระบบบำรุงรักษาดาต้าเซ็นเตอร์ให้ทันสมัย
การปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์ให้มีความทันสมัย ต้องทำมากกว่าเรื่องการอัพเกรดฮาร์ดแวร์หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ ผู้ดูแลดาต้าเซ็นเตอร์ ควรจะต้องประเมินโซลูชันด้านซอฟต์แวร์และการซ่อมบำรุงเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานให้ดีขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนกระบวนการเป็นระบบดิจิทัลช่วยเรื่องนี้ได้ โดยการเชื่อมต่อเซ็นเซอร์ผ่านระบบดิจิทัลจะให้ข้อมูลที่นำมาใช้ดำเนินการได้จริง ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถมองเห็นความเป็นไปที่เกิดขึ้นและมีมุมมองเชิงลึกที่นำมาใช้ในการปรับการทำงานได้อย่างเหมาะสมให้ความสามารถในการปรับเปลี่ยนและให้ประสิทธิภาพ ข่าวดีก็คือ ดาต้าเซ็นเตอร์รุ่นเก่าสามารถอัพเดตเพื่อควบคุมการใช้งานเทคโนโลยีที่ว่านี้ได้เช่นกัน
องค์กรสามารถนำกระบวนการด้านระบบดิจิทัลมาใช้ โดยปรับปรุงระบบไฟฟ้าให้มีความทันสมัยด้วยอุปกรณ์อัจฉริยะที่จะผสานการทำงานร่วมกับระบบจัดการพลังงาน ในทางกลับกันทีมงานดาต้าเซ็นเตอร์สามารถใช้ซอฟต์แวร์ในการมอนิเตอร์เพื่อเข้าถึงข้อมูลที่จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานได้อย่างเหมาะสมมอนิเตอร์การใช้พลังงานและการซ่อมบำรุงตามเงื่อนไข แนวทางดังกล่าวจะช่วยยืดอายุสินทรัพย์ดาต้าเซ็นเตอร์ และประหยัดเวลา โดยช่วยลดการเข้าไปให้บริการที่ไซต์งานโดยไม่จำเป็นได้ ข้อดีอีกอย่างของแนวทางนี้ก็คือ องค์กรสามารถอัพเกรดส่วนประกอบของอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าที่ยังใช้งานอยู่ ช่วยลดของเสียจำพวกวัสดุตลอดกระบวนการในการปรับปรุงระบบให้มีความทันสมัย
ร่วมงานกับคู่ค้าที่เหมาะสม
เมื่อตัดสินใจเลือกแนวทางเพื่อเดินหน้าปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์ให้ทันสมัยได้แล้ว การเลือกคู่ค้าก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน การทำงานร่วมกับผู้จำหน่ายที่มีประสบการณ์จะช่วยให้มั่นใจว่าดาต้าเซ็นเตอร์ได้รับการปรับปรุงอย่างมีประสิทธิภาพ มีความยั่งยืนและให้ความยืดหยุ่นเท่าที่จะเป็นไปได้
จากนั้นให้มองหาบริษัทที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เพื่อช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานสู่ระบบดิจิทัลและทำงานร่วมกับโซลูชันที่ให้ความยั่งยืนได้ คู่ค้าดังกล่าวควรจะให้มุมมองเชิงลึกในการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกลยุทธ์ในภาพที่ใหญ่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงระบบใหม่ หรือปรับเปลี่ยนเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจ รวมถึงเรื่องของงบประมาณ ผู้จำหน่ายจากภายนอกสามารถช่วยระบุจุดที่มีความเสี่ยงพร้อมนำแนวทางปฏิบัติเชิงรุกที่ดีที่สุดมาช่วยลดความสูญเสียและปรับระบบให้พร้อมรองรับอนาคตได้ และเพื่อให้กระบวนการวางแผนดำเนินไปอย่างราบรื่น คู่ค้ารายดังกล่าวต้องมีความเข้าใจถึงความต้องการของผู้ใช้และผู้รับเหมาทั่วไปด้วยเช่นกัน
สุดท้าย ให้มองหาคู่ค้าที่สามารถให้การสนับสนุนกระทั่งหลังจากโครงการปรับปรุงเสร็จสิ้นแล้วก็ตาม ตัวอย่างเช่น ชไนเดอร์ อิเล็คทริคที่นำเสนอแผนการบริการที่ผสานรวมความสามารถของแพลตฟอร์ม EcoStruxureTM พร้อมระบบตรวจสอบการทำงานได้จากระยะไกลรวมถึงบริการซ่อมบำรุง ณ ไซต์งาน หากว่าทีมงานดาต้าเซ็นเตอร์ตัดสินใจว่าจะมอนิเตอร์และบริหารจัดการระบบเอง ทางทีมก็ยังสามารถใช้ซอฟต์แวร์ตัวเดียวกันนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่ต้องการเพื่อป้องกันดาวน์ไทม์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
เอกสารไวท์เปเปอร์เกี่ยวกับทางเลือกในการปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์ให้มีความทันสมัย
เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ พร้อมทั้งตอบสนองความต้องการที่เติบโต ผู้ประกอบการต้องพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีประสิทธิภาพ ยั่งยืนและเป็นระบบดิจิทัลมากขึ้น โดยสามารถค้นหากลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรคุณได้จาก white paper “How Modernizing Aging Data Center Infrastructure Improves Sustainability” ซึ่งจะเน้นเรื่องความท้าทายของระบบโครงสร้างดาต้าเซ็นเตอร์รุ่นเก่าเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน ด้วยการนำเสนอแนวทางปฏิบัติ 3 ประการในการปรับปรุงความทันสมัยให้กับดาต้าเซ็นเตอร์