สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย กว่า300คน รวมตัวร้องสื่อฯขอคัดค้านการปรับขึ้นดอกเบี้ยของคณะกรรมการสหกรณ์ฯที่ปรับจาก 3.6%ขึ้นเป็น4.25%

วันนี้ ( 29 ก.ย. 65) ที่ฝ่ายช่างการบินไทย สุวรรณภูมิ มีการรวมตัวกันของพนักงานฝ่ายช่าง ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด รวมตัวร้องสื่อฯขอคัดค้านการปรับขึ้นดอกเบี้ยของคณะกรรมการสหกรณ์ฯ

โดยกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการบินไทย แบ่งเป็นแต่ละกลุ่มงานทั้งฝ่ายช่าง ฝ่ายลูกเรือ พนักงานภาคพื้น พนักงานครัว พนักงานคลังสินค้า เป็นต้น รวมมีพนักงานทุกกลุ่มประมาณกว่าหมื่นคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากคณะกรรมการชุดปัจจุบันที่ได้นำมติคณะกรรมการชุดก่อนที่ลงมติให้ขึ้นดอกเบี้ยสมาชิกฯ แต่ไม่ระบุว่าจะขึ้นเท่าใด เมื่อระยะเวลาผ่านมาถึงคณะกรรมการชุดล่าสุด ที่ได้ลงมติเมื่อวันที่15กย.65 โดยที่ประชุมคณะกรรมการทั้งหมด15ท่าน แบ่งเป็น2กลุ่ม โดยกลุ่มเสียงข้างมาก ได้ยกมือลงมติ8ต่อ6ให้ขึ้นดอกเบี้ยจาก3 6%ขึ้นเป็น4.25% จึงทำให้สมาชิกที่กู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการบินไทยเดือดร้อนหนัก ซึ่งที่ผ่านมาดอกเบี้ย3.6%  สมาชิกถูกหักดอกเบี้ยในแต่ละเดือน รวมรายละหลายหมื่นบาท ก็แทบจะไม่เหลืออยู่แล้ว โดยสมาชิกฯแต่ละคนเป็นหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ฯอยู่คนละนับหลายล้านบาท โดยคนที่กู้ทั้งหมด จะแบ่งเป็นสัญญา 4ประเภท ได้แก่

🔷️1.สัญญา สามัญ(ใบฟ้า)

🔷️2.สัญญา โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต(ใบเหลือง)

🔷️3.สัญญา กู้วิกฤตเศษฐกิจโควิด

🔷️4.สัญญา ฉุกเฉิน

พนักงานนับหมื่นคนได้กู้ทั้ง4สัญญาแทบจะทุกคน ซึ่งทุกกลุ่มพนักงานฯได้ยื่นหนังสือไปเมื่อวันที่26 ก.ย.65ที่ผ่านมากับ นางชนัญญา วัชรพงษ์เมธี ตำแหน่งรักษาการผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการบินไทย เพื่อขอให้กรรมการชุดนี้ชะลอไปก่อน6เดือน เพื่อหาข้อสรุปหรือบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกออกไปก่อน หรือเป็นไปได้ ขอให้ยกเลิกมติคำสั่งในการขึ้นดอกเบี้ยไปเลย

และสำหรับวันนี้ หนึ่งในกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ฯ คือฝ่ายช่าง ได้รวมตัวมายื่นหนังสือทวงถามถึงข้อเรียกร้องว่าได้ผลเป็นเช่นไร ก่อนที่จะเริ่มการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนตุลาคมนี้

ทางผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงผู้บริหารระดับสูงว่าได้ลงมาช่วยดูแลหรือรับทราบปัญหาแล้วหรือยัง จึงได้ทราบว่า ในช่วงเช้า ผู้บริหารฝ่ายช่างท่านนึง เดินมา พร้อมกับได้พูดคุยกับกลุ่มที่มาทวงถามว่า “ตนไม่เห็นด้วยกับการปรับดอกเบี้ยในครั้งนี้ ทำให้พนักงานทั้งหมดได้รับความเดือดร้อนพร้อมได้ตวาดใส่คณะกรรมการฯว่า “เห้ย คุณไปปรับ4.25%ได้ไง ในขณะที่สภาวะเศษฐกิจเราไม่ดี” ซึ่งพนักต่างชื่นชมชมที่ยังมีผู้บริหารยังคงรู้และเข้าใจในความเป็นอยู่ของสมาชิกทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวยังทราบมาอีกว่า การประชุมของสหกรณ์ฯ คณะกรรมการฯ จะได้รับเบี้ยประชุมคนละ1,000บาท (ในสถานที่ตนเอง) แต่ถ้าประชุมอยู่นอกห้องประชุม แต่อยู่ในอาคารเดียวกันจะได้เพิ่มเบี้ยประชุมเป็น2,000บาท โดยเดือนนึงจะประชุมกันบ่อยครั้ง จนเป็นที่สงสัยว่า การเบิกเงินเบี้ยการประชุมในแต่ละครั้งนับหมื่นบาท ได้ประโยชน์อะไรกับองค์กรบ้าง นี่คือสิ่งเล็กๆที่น่าสงสัย และที่ผ่านมาการย้ายสำนักงานสหกรณ์ฯไปอยู่ที่ถนนกิ่งแก้ว ซึ่งจากเดิมสำนักงานสหกรณ์ฯอยู่ที่สนามบินก็ดีอยู่แล้ว พอย้ายไปที่ถนนกิ่งแก้ว โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของสมาชิกเลย ทำให้สมาชิกต้องเดินทางไปนับสิบกิโลฯสร้างความลำบากให้กับสมาชิกเป็นอย่างมาก ปัจจุบันสมาชิกนับหมื่นยังคงมีข้อสงสัยอีกมากมายที่ต้องการให้คณะกรรมการชุดนี้แก้ไขให้ขาวสะอาด และอยากขอให้เปิดประชุมใหญ่วิสามัญแบบออนไซต์onsite เพื่อเปิดเวทีให้สมาชิกนับหมื่นได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งจะเกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม เพราะไม่มีการประชุมใหญ่วิสามัญมานานหลายปีแล้ว