คดีไม่คืบกรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน (ดงหมู) ในพื้นที่ ต.โพนทราย และ ต.คำป่าหลาย อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร

คดีไม่คืบกรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน (ดงหมู) ในพื้นที่ ต.โพนทราย และ ต.คำป่าหลาย อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร

 

 

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2565 กรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน (ดงหมู) ในพื้นที่ ต.โพนทราย และ ต.คำป่าหลาย อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร ตามที่ได้ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ป่าไม้จากกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ได้เข้าตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงหมู โดยการเปิดเส้นทางถนนตัดใหม่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เป็นระยะทางความยาวประมาณ 4,000 เมตร จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวพบว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นการเปิดเส้นทางตัดถนนใหม่ (ไม่ใช่ถนนเส้นทางสัญจรเดิมที่มีอยู่แล้ว) ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงหมู ทางด้านทิศตะวันตกบริเวณท้ายหมู่บ้านดอนม่วงพัฒนา ตำบลโพนทราย อำเภอเมืองมุกดาหาร เชื่อมต่อไปยังบริเวณหมู่บ้านสามขา ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร โดยพบว่ามีผู้รับผิดชอบโครงการดังกล่าวเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งในจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งถนนตัดใหม่เส้นดังกล่าวจัดทำขึ้นโดยใช้เครื่องจักรกลของหน่วยงาน ฯ และใช้เจ้าหน้าที่ขององค์กร ฯ มีรายละเอียดแผนการดำเนินงาน รายละเอียดการเบิกค่าใช้จ่าย และมีผู้อนุมัติโครงการชัดเจน ซึ่งต้องดำเนินการตามแผนพัฒนาและจะต้องเป็นทรัพย์สินขององค์กรส่วนท้องถิ่นเท่านั้นจึงจะดำเนินการโครงการดังกล่าวได้ ซึ่งจากการบุกรุกครั้งนี้ทำให้ต้องมีการโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนหลายร้อยต้นในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าดงหมู) แปลงที่ 2 ซึ่งเป็นผืนป่าขนาดใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางระบบนิเวศน์ตามธรรมชาติของจังหวัดมุกดาหาร ได้รับการขึ้นทะเบียนกำหนดเขตเป็นพื้นที่ป่าสงวนเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2529 มีเนื้อที่ครอบคลุมกว่า 40,594 ไร่ หรือประมาณ 64.95 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลหนองบัว และตำบลชะโนดน้อย อำเภอดงหลวง และตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ถือว่าเป็นผืนป่าขนาดใหญ่ มีไม้ตะเคียน ไม้ยาง ไม้กระบาก ไม้แดง ไม้เต็ง ไม้รัง ไม้เหียง ไม้พลวง และไม้ชนิดอื่นที่มีค่าเป็นจำนวนมาก (ที่มา : กฎกระทรวง ฉบับที่ 1,186 (พ.ศ.2529) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 103 ตอนที่ 216 ฉบับพิเศษหน้า 17)

 

สภาพต้นไม้ที่ถูกโค่นเพื่อตัดถนนเปิดเส้นทางใหม่ตลอดแนวทั้งสองข้างทาง ระยะทางประมาณ 4,000 เมตร ตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงพบว่ามีเครื่องจักรกลขนาดใหญ่สำหรับการก่อสร้างถนนมีหลักฐานปรากฏว่าเป็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งจอดทิ้งไว้ จำนวน 4 คัน คือรถแบคโฮ จำนวน 1 คัน รถเกรดดิน จำนวน 1 คัน รถบดถนน จำนวน 1 คัน และรถบรรทุกน้ำ จำนวน 1 คัน ซึ่งจากการตรวจสอบไปยังเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำให้ทราบว่าไม่มีการขออนุญาตตัดไม้อย่างถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ ก่อนที่จะมีการเข้าดำเนินการตัดถนนเพื่อเปิดเส้นทางใหม่ อีกทั้งยังไม่มีการประสานงานล่วงหน้าว่าจะมีการเข้ามาดำเนินการในพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมดูแลรับผิดชอบของหน่วยงานกรมป่าไม้ ฯ แต่อย่างใด แต่กลับปรากฏว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานความรับผิดชอบของตนเข้าไปดำเนินการการตัดถนนเปิดเส้นทางใหม่ ซึ่งปรากฏมีการโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่ป่าสงวนจำนวนหลายร้อยต้นคิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางธรรมชาติอันประเมินค่ามิได้ ณ ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวยังคงหาผู้กระทำความผิดไม่ได้ เกิดจากอะไร หรือจะรอให้ความเสียหายมากกว่านี้ถึงจะดำเนินการแก้ไข วอนนายกรัฐมนตรีฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลแก้ไขให้ชาวมุกดาหารด้วย