คืบหน้า ตร.ไล่ยิงแก๊งยาบ้า จวกตำรวจไม่ควรยิงปืนกลางเมืองที่มีคนหนาแน่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.30 น.ของวันที่ 12 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าทำการสกัดจับคนร้ายแก๊งยาบ้าที่บริเวณสี่แยกห้างสรรพสินค้าซุ่นเฮงพลาซ่า ถ.กวงเฮง ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ อยู่กลางใจเมืองศรีสะเกษ ซึ่งคนร้ายขับรถกระบะอีซุซุสี เทา – ฟ้า หมายเลขทะเบียน บต 6544 ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ ตร.จะเข้าไปทำการจับกุม แต่ว่าคนร้ายได้ไหวตัวทัน ได้ขับรถพุ่งข้ามเกาะกลางถนนบริเวณสี่แยกซุ่นเฮงข้ามไปยังถนนฝั่งตรงข้าม แต่ปรากฏว่า คนร้ายได้เร่งเครื่องรถเพื่อขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่บริเวณล้อรถหลายนัด เพื่อป้องกันการหลบหนีแต่ปรากฏว่า คนร้ายได้ขับรถพุ่งชนรถของเจ้าหน้าที่ ตร.และรถของประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนหลายคัน ก่อนหลบหนีไป
โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ จำนวน 2 ราย โดยทั้งคู่เป็นชาว อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ และพบอาวุธปืน 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน จำนวน 87 นัด และอาวุธปืนแบลงค์กัน 1 กระบอก นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายชัยวัฒน์ ซึ่งถูกรถยนต์ปิคอัพของคนร้ายซึ่งกำลังขับรถเพื่อหลบหนีการจับกุมของ ตร.พุ่งชนด้านหน้าพังเสียหายยับเยินไม่สามารถขับเคลื่อนได้ โดยนายชัยวัฒน์ ได้เปิดเผยวินาทีที่ ตร.ไล่ยิงรถยนต์ของคนร้ายว่า วันเกิดเหตุตนเลิกจากการทำงานประจำแล้วก็ได้ขับรถมาเพื่อจะมารับลูกสาวอยู่ที่หน้า ร.ร.อนุบาลศรีสะเกษ เมื่อมาถึงบริเวณสี่แยกซุ่นเฮงซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ พอดีไฟเขียวตนก็ได้เคลื่อนรถไป ทันใดนั้นก็มีรถตำรวจมาจากถนนกวงเฮง เลี้ยวซ้ายเข้ามาทางถนนลูกเสือเพื่อจะไปทาง ร.ร.อนุบาลศรีสะเกษ พอมาถึงกลางถนนก็ขับรถมาจอดอยู่กลางถนน ตนได้มาจอดต่อท้าย ไม่คิดว่าเกิดอะไรขึ้นน่าจะเกิดจากสาเหตุรถติดทำให้รถตำรวจจึงได้จอด เนื่องจากว่าตนใช้เส้นทางสายนี้ประจำ การจราจรบริเวณนี้จะติดขัดมาก เนื่องจากว่าบริเวณนี้มี ร.ร.อยู่หลาย ร.ร.
นายชัยวัฒน์ เล่าต่อไปว่า พอมองไปข้างหน้าประมาณ 80 เมตร เห็นบุคคลประมาณ 3 – 4 คนถือปืนเดินข้ามถนนเกาะกลางถนนไปโดยถือปืนไป ต่อมาก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดตรงที่รถ ของคนร้ายจอดอยู่ ซึ่งอยู่คนละฝั่งถนนกับรถของตน โดยรถติดไฟแดงยาว พอมีเสียงปืนดัง ปัง ปัง ปัง ปังปัง หลายนัด มองไปเห็นกลุ่มควันพุ่งขึ้น ตนจึงคิดว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นไม่ใช่ในทางที่ดี ตนจึงได้เตรียมตัวจะหลบหนี แต่ไม่รู้ว่าจะหาที่หลบที่ไหนเนื่องจากรถถอยหลังก็ถอยไม่ได้เดินหน้าก็ไม่ได้เพราะว่าตำรวจจอดรถขวางอยู่ จากนั้นคนร้ายได้ขับรถพุ่งชนรถคันอื่นข้ามเกาะกลางถนน พอรถข้ามไปได้ก็วิ่งหลบหนีโดยขับรถพุ่งมาใส่รถตำรวจแล้วได้เบียดรถของตำรวจ ก็มีเสียงปืนขึ้นอีกทำให้รถคนร้ายพุ่งมาชนรถของตนได้รับความเสียหายความแรงของการชน ทำให้รถของตนถูกชนไปอยู่บนเกาะกลางถนนตรงบริเวณทางม้าลาย จากนั้น คนร้ายก็ได้ถอยหลังแล้วก็ขับเดินหน้าไป มุ่งหน้าเลี้ยวขวาไปทางถนนกวงเฮงทางสถานี บขส. ศรีสะเกษ ตนได้เปิดประตูรถลงมาดูรถขอบตน โดยเครื่องยนต์ก็ติดอยู่ ปรากฏว่ารถด้านหน้าซ้ายถูกชนได้รับความเสียหายยับเยิน ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ ต่อมาลูกสาวของตนที่ยืนอยู่หน้า ร.ร.อนุบาลศรีสะเกษ ได้โทรมาบอกตนว่า พอได้ยินเสียงปืนได้วิ่งหลบหนีไปกับ รด. 2 – 3 คน ส่วนค่าเสียหายนั้นร้อยเวรก็ได้ให้ช่างมาประเมินราคาค่าเสียหายให้ ปรากฏว่าช่างตีราคาประเมินซ่อมอยู่ที่ 93,000 บาท ซึ่งตรงนี้ก็ยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนรับผิดชอบซ่อมรถให้ตน เนื่องจากว่าตนต้องใช้รถคันนี้ในการรับส่งลูกสาวไปเรียนท จ.ศรีสะเกษ เป็นประจำทุกวันไปกลับวันละประมาณ 70 กม. ทำให้ตนได้รับความเดือดร้อนมาก
นายชัยวัฒน์ ยังกล่าวด้วยว่า ตนเห็นว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดอยู่กลางเมืองซึ่งเป็นย่านชุมชนคนหนาแน่นมากอยู่กลางเมืองศรีสะเกษ ตำรวจไม่ควรที่จะมาใช้อาวุธปืนมายิงแบบนี้ ควรที่จะใช้ยุทธวิธีอย่างอื่นในการหยุดคนร้าย หรือว่าไล่ล่าคนร้ายออกไปนอกเขตชุมชนหรือนอกเมืองได้หรือไม่ เพราะว่าการยิงปืนในชุมชนมันไม่ดีทั้งตำรวจทั้งคนร้าย เพราะว่าจะอันตรายมาก ถึงแม้ว่าตั้งใจที่จะยิงล้อรถของคนร้ายก็อาจจะพลาดไปโดนล้อแม็กและกระสุนอาจจะพลาดยิงไปถูกบนพื้นแข็ง ซึ่งลูกกระสุนปืนอาจจะเกิดกระเด็นกระดอนไปถูกประชาชนที่มีอยู่จำนวนมากบริเวณนั้นได้ โชคดีที่เมื่อวันเกิดเหตุไม่โดนคนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ได้ข่าวว่ามีรถยนต์ของชาวบ้านถูกกระสุนปืนเสียหาย ซึ่งอันตรายมากไม่อยากให้เกิดการสูญเสียไม่อยากให้เกิดการเสียชีวิต