กรมชลฯ เร่งระบายน้ำท่วมขังภาคใต้ตอนล่าง หลังมีฝนตกหนัก

กรมชลประทาน ขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรีและกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เร่งเข้าไปช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วม เดินเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำกําลังแรงที่ปกคลุมบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศมาเลเซีย มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าปกคลุมมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทยในช่วงวันที่ 25-28 ก.พ.65 ส่งผลให้พื้นที่ภาคใต้มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส และนครศรีธรรมราช กรมชลประทาน ได้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หลังเกิดน้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่

สำหรับสถานการณ์น้ำใน 4 ลุ่มน้ำ สายหลักในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ลุ่มน้ำบางนรา ลุ่มน้ำปัตตานี ลุ่มน้ำสายบุรี และลุ่มน้ำโก-ลก มีน้ำล้นตลิ่งเป็นแห่งๆ สำนักงานชลประทานที่ 17 ได้ควบคุมการระบายน้ำผ่านอาคารชลประทานในพื้นที่ ด้วยการเปิด-ปิดบานระบาย ตามจังหวะการขึ้นลงของระดับน้ำทะเล เพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังจากปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักสะสม พร้อมทั้งเดินเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้า สูบพร่องน้ำออกจากพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และเปิดประตูระบายน้ำกลางคลองมูโนะ ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขังออกพื้นที่ รวมทั้งมีการพร่องน้ำในแม่น้ำบางนรา ด้วยการควบคุมการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำบางนราตอนบน/ตอนล่าง และประตูระบายน้ำไม้แก่น ตามการขึ้นลงของระดับน้ำทะเล เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ พร้อมกันนี้ได้ทำหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส สำนักงานป้องกันและบรรเทาภัยจังหวัดนราธิวาส ประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำหลากที่จะเกิดขึ้น

ในส่วนของการช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมอื่นๆ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโก-ลก ได้เปิดสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ทั้ง 9 สถานี และส่วนเครื่องจักรกล สำนักงานชลประทานที่ 17 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 3 พื้นที่ รวม 5 เครื่อง และอยู่ระหว่างติดตั้งเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขัง ดังนี้

💥 จุดที่ 1 บริเวณท่อระบายน้ำแห่งที่ 3 บ้านยะกัง อ.เมืองนราธิวาส ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อำเภอเมืองนราธิวาส
💥 จุดที่ 2 สถานีสูบน้ำโคกสะตอ ม.7 บ้านปิเหล็ง ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง และติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบบ Hydro Flow ขนาด 28 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่
💥 จุดที่ 3 ปตร.ปิเหล็ง 1 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง อยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบบ Hydro Flow ขนาด 30 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง

ที่จังหวัดพัทลุง จ.พัทลุง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้
💥 อ.ควนขนุน ได้แก่ หมู่ที่ 9 ต.ควนขนุน น้ำล้นตลิ่งคลองท่าแนะ เข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ประมาณ 40 ไร่ บ้านเรือน 20 ครัวเรือน มีน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณบ้านเรือนและผิวทางจราจร ประมาณ 15 – 20 เซนติเมตร มีน้ำท่วมในพื้นที่หมู่ที่ 9 ต.ชะมวง หน้าวัดล้อ ระดับน้ำท่วมสูง 5 -15 เซนติเมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว
💥 อ.กงหรา มีน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณหมู่ที่ 4 ต.สมหวัง 20 ครัวเรือน ระดับน้ำท่วมสูง 30-50 เซนติเมตร และที่หมู่ 7 ต.ชะรัด มีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร 700 ไร่ บ้านเรือน 35 ครัวเรือน ระดับน้ำท่วมสูง 30-50 เซนติเมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว ส่วนที่อำเภอเมืองพัทลุง มีน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณหมู่ที่ 3 และ 4 ต.นาโหนด 50 ครัวเรือน น้ำท่วมสูง 20-40 เซนติเมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว โครงการชลประทานพัทลุง ได้ลดบานประตูระบายน้ำท่าแนะ เหลือ 20 เซนติเมตร จำนวน 1 บาน เพื่อลดผลกระทบกับประชาชนด้านท้าย

ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 3 อําเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.พระพรหม และ อ.ปากพนัง โครงการชลประทานนครศรีธรรมราช ได้ยกบานประตูระบายน้ำให้พ้นน้ำ ได้แก่ ประตูระบายน้ำคลองคูพาย ประตูระบายน้ำคลองป่าเหล้า ประตูระบายน้ำคลองนครน้อย ประตูระบายน้ำคลองไม้เสียบ ประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ และประตูระบายน้ำชะอวด-แพรกเมือง เพื่อเร่งระบายน้ำและลดผลกระทบน้ำท่วมขัง

ทั้งนี้ กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 15, 16 และ 17 ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างอย่างใกล้ชิด พร้อมระดมเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าไปช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนให้มากที่สุด ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)