“รองเด่น”บินด่วนสระแก้ว เปิดปฏิบัติการบูรพา 491 ทลายแก๊งคอลเซนเตอร์

“รองเด่น”บินด่วนสระแก้ว เปิดปฏิบัติการบูรพา 491 ทลายแก๊งคอลเซนเตอร์

ตัดวงจรส่งคนไทยข้ามแดนกัมพูชา

เหยื่อเผยถูกบังคับให้หลอกคนไทยด้วยกัน แฉขั้นตอนนำชี้เส้นทางข้ามแดน

 

จากกรณีที่“แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ได้ระบาดหนักอย่างมากในประเทศไทย และมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบหลากหลายในการใช้กลอุบาย อาทิ หลอกว่าได้รับรางวัล หลอกว่าเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด หรือปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลอกให้กู้เงินออนไลน์ หลอกให้หลงรัก และมีการพัฒนาไปถึงการหลอกให้โอนเงินเข้าเว็บเทรดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งเป็นเว็บเทรดผี โดยโอนเงินเข้าไปในรูปแบบสกุลเงินดิจิทัล( Usdt ) แล้วไม่สามารถถอนเหรียญได้ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ความสำคัญในการสืบสวนติดตามจับกุมมาโดยตลอด ได้ใช้มาตรการที่หลากหลายรวมไปถึงการประกาศแจ้งเตือนภัยผ่านสื่อตามช่องทางต่างๆ ให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบถึงแผนประทุษกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ก็ยังไม่หมดสิ้นไป และระบาดมีผู้เสียหายถูกหลอกเป็นจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมเป็นวงกว้าง

โดยเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 3 ก.พ.65 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 ,พล ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2 ,พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ รอง ผบช.ภ.2 ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 และ หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5, พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. และ หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 1 ,พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว,พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิศ นำกำลังชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ออกปูพรมพื้นที่ตะเข็บชายแดน จ.สระแก้ว และสามารถบุกจับกุมเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งรัดปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งกำลังระบาดอย่างหนัก โดยมีสองสามีภรรยาอยู่ฝั่งประเทศไทย ทำหน้าที่ประสานงานกับชาวจีน หัวหน้าเครือข่ายและเป็นธุระจัดหาคนไทยไปทำงานในประเทศกัมพูชา ผ่านเว๊บไซต์จัดหางานประเทศเพื่อนบ้าน โดยหลอกว่ามีรายได้ดี งานสบาย เมื่อมีคนหลงเชื่อจะขับรถไปรับถึงบ้านและนำพาข้ามชายแดนไปยังประเทศกัมพูชา ชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับสองสามีภรรยา กระทั่งล่าสุด ชุดปฏิบัติการบูรพา 491 สามารถบุกเข้าทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตัดวงจรส่งคนไทยข้ามแดนไปกัมพูชาและสามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ประกอบด้วย นายณฐกร ควงวงศ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 193 ม.9 ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และ น.ส.อ้อยใจ โคตรรัมย์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153 ม.3 ต.โคคลาน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ภรรยาของนายณฐกร โดยแจ้งข้อหาหนัก กับสองสามีภรรยาฐาน ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่นฯ , หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นฯ , เพื่อจะเอาคนลงเป็นทาส หรือให้มีฐานะคล้ายทาส หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือหน่วงเหนี่ยวซึ่งบุคคลหนึ่งบุคคลใด ,เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ โดยหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใด มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

โดยนายณฐกร ควงวงศ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้รับจ้างขนคนไทยข้ามแดน จุดที่นำพาคนไทยข้ามชายแดนไปยังประเทศกัมพูชา ที่บริเวณทุ่งนาด้านหลังปราสาทสด๊กก๊อกธม จากนั้นคนเขมร 3 คน จะมารอรับคนเดินข้ามไป ซึ่งต้องใช้การเดินเท้าไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตรจึงจะถึงแนวชายแดน โดยที่ต้องให้คนเขมรมารับเพราะว่าบริเวณแนวชายแดนฝั่งกัมพูชาจะมีกับระเบิดของทหารกัมพูชาอยู่ หากไม่ชำนาญเส้นทางจะทำให้ถูกกับระเบิดได้ โดยการรับจ้างข้ามประเทศแบบนี้จะได้ค่าจ้างต่อหัวคนละ 6,500 บาท และยอมรับว่าหมู่บ้านริมชายแดนแบบนี้มีขบวนการขนคนข้ามแดนแบบนี้อีกหลายราย เพราะแนวชายแดนละแวกนี้ไม่มีภูเขาหรือแม่น้ำกั้น หากชำนาญเส้นทางก็สามารถหลบเจ้าหน้าที่ข้ามแดนไปได้ ส่วนน.ส.อ้อยใจ โคตรรัมย์ ให้การภาคเสธว่าเคยทำงานคอลเว้นเตอร์ที่ประเทศกัมพูชา ที่สีหนุวิลล์ แผนกบัญชีถอนเงิน เดินทางกลับบ้านจะรอทำเรื่องหย่าสามีเก่า


ภายหลังการจับกุมตัวผู้ต้องหา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ พร้อมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้ให้ผู้ต้องหานำพา เข้าตรวจค้นเซฟเฮ้าลับประชิดชายแดนที่ใช้เป็นพักคนไทยก่อนนำตัวข้ามไปยังประเทศกัมพูชา คือ บ้านเลขที่ 204 หมู่ 9 ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ลักษณะเป็นบ้านร้าง จึงตรวจเก็บพยานหลักฐานบุคคลทั้งหมดเกี่ยวข้องในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจค้นได้ตรวจยึดของกลางจำนวน 10 รายการ เป็นสมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม,บอเดอร์พาส 2 เล่ม พร้อมบิลใบเสร็จต่างๆ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร (PCT) ได้กล่าวว่า วันนี้เราจะเปลี่ยนการทำงานของเราจะไม่ตั้งรับอีกต่อไป เราจะเปิดเกมบุกอย่างเต็มรูปแบบสำหรับพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เราจะเร่งขยายผลการจับกุมคดีนี้ให้ถึงต้นตอตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ซึ่งให้ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขั้นเด็ดขาด โดยตอนนี้ได้พยานหลักฐานมาพอสมควรแล้วออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมรวม 17 คน โดยเฉพาะ นายสุคนธนารักษ์ นาคจันทร์ หรือฉายาปอ หนวดงาม ตัวการใหญ่คนไทยที่ควบคุมคนไทยหลอกคนชาติเดียวกัน โดยจะเร่งประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านโดยเร็วเพราะมีคนที่ถูกหลอกลวงมีจำนวนมากกำลังรอความหวัง เราต้องหยุดยั้งความเสียหายที่เกิดกับพี่น้องประชาชนให้ได้ โดยปัจจุบัน “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ระบาดหนักและมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หลากหลายรูปแบบ เช่น หลอกว่าได้รับรางวัล หลอกว่าเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด หรือปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลอกให้หลงรัก หลอกให้กู้เงินออนไลน์ และมีการพัฒนาไปถึงการ หลอกให้โอนเงินเข้าเว็บเทรดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งเป็นเว็บเทรดผี โดยโอนเงินเข้าไปในรูปแบบสกุลเงินดิจิทัล( Usdt ) แล้วไม่สามารถถอนเหรียญได้ จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชน อย่าตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อง่ายๆ หากพบเบาะแสสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน PCT 1599 หรือ บช.สอท. 1441 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง 081-8663000

สุดท้ายขอฝากเตือนคนไทยที่ต้องการสมัครเดินทางไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ต่างประเทศเพื่อหลอกลวงคนไทยด้วยกันเป็นความผิดตามกฎหมาย นอกจากท่านจะถูกดำเนินคดีแล้ว ยังต้องถูกยึดอายัดเงินไม่ได้ใช้ และบุคคลใดไม่ทำงานคอลเซ็นเตอร์ต้องมีความเป็นอยู่แบิบลำบากตามที่ผู้เสียหายให้ข้อมูลอีกด้วย

รายงานข่าวจาก.ไตรรัตน์ มีวงษ์ จ สระแก้ว

You May Have Missed!

1 Minute
โรงพยาบาล
สำนักอนามัยจัดกิจกรรมรณรงค์วันส้วมโลก ประจำปี 2567 ณ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์
1 Minute
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ จัดพิธีทำบุญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงพยาบาล
0 Minutes
ข่าวประชาสัมพันธ์
ทรู แจกใหญ่ จัดหนัก กับ แคมเปญ “รวยคูณสอง แจกทอง แจกรถ” ร่วมกับ 8 พาร์ทเนอร์ชั้นนำ มอบโชคใหญ่ให้ลูกค้าทรู ดีแทค รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท เพียงสมัครบริการเสริม ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลทันที ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พ.ค. 68
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
คณะกรรมการบริหารโรงเรียนปลูกปัญญา แต่งตั้ง “บิ๊กทิน” ผจก.ฟุตซอลทีมชาติไทย  เป็นประธานที่ปรึกษาโรงเรียน