อธิการบดี มก.เปิดงานเกษตรแฟร์ ๒๕๖๕ “เกษตรวิถีใหม่ หลังมหันตภัยโควิด”
ย้ำเดินหน้าสร้างความกินดี อยู่ดี ร่วมกันออกมาใช้ชีวิตอย่างปกติใหม่

วันนี้ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๕ ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตศาสตร์ เป็นประธานเปิดงานเกษตรแฟร์ ประจำปี ๒๕๖๕ “เกษตรวิถีใหม่ หลังมหันตภัยโควิด” ภายใต้มาตรการเข้มข้นตามแนวปฏิบัติด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันโควิด-๑๙ โดยมีคณะกรรมการดำเนินงานจัดงานเกษตรแฟร์ คณะผู้บริหาร แขกรับเชิญ และนิสิต ร่วมในพิธี

โดยพิธีเปิดจัดขึ้นอย่างมีสีสัน ให้แนวคิดเรื่องของการใช้ชีวิตและทำกิจกรรมอย่างปลอดภัยภายใต้สถานการณ์โควิด โดยดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดี มก. ได้นำอุปกรณ์ฆ่าเชื้อโควิด-๑๙ ทำลายตัวเชื้อไวรัสให้หมดสิ้นไป หลังจากตัวเชื้อไวรัสถูกทำลายแล้วก็ถูกแทนที่โดยข้อความ งานเกษตรแฟร์ ประจำปี ๒๕๖๕ “เกษตรวิถีใหม่ หลังมหันตภัยโควิด ” และตามด้วยการร้องและรำอย่างชาวนนทรี จากนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชมรมดนตรีสากลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เคยูแบนด์

การจัดงานเกษตรแฟร์ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดขึ้นในช่วงคาบเกี่ยวกับงานวันคล้ายวันสถาปนา มก. ๒ กุมภาพันธ์ ของทุกปี ในอดีตการจัดงานแสดงเทคโลยีทางการเกษตร เริ่มจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในปี พ.ศ. ๒๔๙๑ จากนั้นจึงมีการจัดงานอย่างต่อเนื่องโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเผยแพร่และถ่ายทอดความรู้ทางการเกษตรสมัยใหม่แก่ประชาชน และขยายความร่วมมือการจัดงานไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นที่มาของการจัดงานเกษตรแห่งชาติ

สำหรับการจัดงานเกษตรแฟร์ ประจำปี ๒๕๖๕ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยและนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยออกสู่สังคม เปิดการเรียนรู้ให้กับนิสิต บุคลากร และอาจารย์ โดยใช้งานเกษตรแฟร์ เป็นห้องปฏิบัติการภาคสนามเพื่อถ่ายทอดความรู้ทุกมิติจากห้องเรียน ช่วยเหลือสังคมประชาชน อีกทั้งยังเป็นช่องทางในการช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประกอบการให้มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตร ทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน กลับไปสู่ชุมชน และสังคม สร้างความสุขให้กับครอบครัว ขณะเดียวกันก็คาดหวังงานเกษตรแฟร์จะเป็นต้นแบบการใช้ชีวิตประจำวันในวิถีใหม่ ซึ่งเราทุกคนจำเป็นต้องใช้ชีวิตเดินหน้า ทั้งการงานอาชีพ การเรียน การทำกิจกรรมและบทบาทหน้าที่ต่างๆ ในสังคม ภายใต้สถานการณ์โควิดอย่างปลอดภัย โดยมหาวิทยาลัยได้กำหนดแนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุขเพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)ตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร ของการจัดงานเกษตรแฟร์ ประจำปี ๒๕๖๕ ให้ทุกฝ่ายเข้าใจและร่วมมือกันปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

กิจกรรมประกอบด้วย การจัดแสดงผลงานวิจัยนวัตกรรมของ มก. การประกวดพืช ผลไม้ การประกวดปลากัด การประกวดผลิตภัณฑ์เครื่องแกงอาหารไทยพร้อมปรุง ประเภทแกง การประกวดผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม TGDA Awards ๒๐๒๒ กลุ่มร้านค้านิสิต การแสดงศิลปและวัฒนธรรม ดนตรี นาฎศิลป์ และกลุ่มร้านค้าตลาดนัดสินค้าทางการเกษตรจากเกษตรกร ตลาดน้ำนนทรี สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเบ็ดเตล็ดจากผู้ประกอบการ โดยในปีนี้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สนับสนุนพื้นที่สร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่อง BCG แก่ผู้ประกอบการและประชาชน ภายในงานเกษตรแฟร์ โดยร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ภายใต้โครงการ อว, BCG Market @Kaset Fair ซึ่งจะมีผู้ประกอบการภายใต้หน่วยงานต่าง ๆของ กระทรวง อว.เข้าร่วมประมาณ ๑๐๐ ราย นอกจากนี้ยังเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ ให้ทุกท่านสามารถเข้าชมงานเกษตรแฟร์เสมือนจริงและเลือกสินค้าได้ตลอดงานและหลังจากการจัดงาน

ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่าจากภารกิจการดูแลด้านสุขภาพความปลอดภัยของนิสิตบุคลากร สู่ การพัฒนาภารกิจมหาวิทยาลัย ด้านการสอนทั้ง online offine และhybrid การดูแลทุนการศึกษา การลดหย่อนและบรรเทาความเดือดร้อนของนิสิต การวิจัยที่ต่อเนื่อง งานบริการวิชาการ อาทิ มหาวิทยาลัยสู่ตำบาล U๒T ตลอดจน โครงการพัฒนาวิชาการ การบ่มเพาะธุรกิจ start up, spin off ที่มีอย่างไม่หยุดนิ่ง อีกทั้งการช่วยประชาชนในภาวะวิกฤตทั้ง ชุดอุปกรณ์ เบื้องต้นช่วยเหลือผู้ติดโตวิด-๑๙ การเป็นโรงพยาบาลสนาม community isolation และเป็นศูนย์วัคซีน ทั้งบางเขน กำแพงแสน สกลนคร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยังดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่จะต้องดำเนินต่อไป หลังจากที่เผชิญปัญหามา ๒ ปีเต็มคือความเป็นอยู่ของคนไทย เป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งใจจะพัฒนาทั้งความรู้ นวัตกรรม เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

ดังนั้น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงได้จัดงานเกษตรแฟร์ ในยุค new normal ในระหว่างวันที่ ๒๘มกราคม ถึง ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เพื่อให้นิสิตได้ฝึกปฏิบัตินอกห้องเรียน ซึ่งปีนี้ มีนิสิตรวมกลุ่มกันขอพื้นที่มากกว่า ๑๕๐ กลุ่ม รวมเป็นจำนวนนิสิต เกี่ยวข้องมากกว่า ๕๐๐ คน และมีร้านค้าในระดับสโมสร ชมรมจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะมีนิสิตเข้ามามีส่วนร่วมจำนวนมาก และ มีจิตอาสา ในการดำเนินการทำระบบออนไลน์ การประชาสัมพันธ์ การจัดประกวดแข่งขันทั้งพืชสัตว์ สิ่งแวดล้อม และ นวัตกรรมต่างๆ ซึ่งถือเป็น การฝึกนิสิต ให้ทำงานเป็นทีม เป็นผู้ประกอบการ เป็นจิตอาสา ตลอดจนความอดทนในการทำงานจริง จากเช้าจรดเย็น ๙ วัน เหนื่อยจริง ขาดทุนจริง และกำไรจริง นิสิตจะได้เข้าใจในการเป็นผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีนวัตกรรมมากมายที่พร้อมใช้งานทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม มีการเสวนาวิชาการออนไลน์ ในระดับชาติและนานาชาติ เกษตรกร และ ผู้ประกอบการ มากกว่า ๑,๒๐๐ กลุ่ม

จากรายงานการสรุปการประเมินผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมของการจัดงานเกษตรแฟร์ ประจำปี๒๕๖๓ โดยคณาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่าการจัดงานเกษตรแฟร์ มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ทั้งทางตรงและทางอ้อม กว่า ๔,๘๐๐ ล้านบาท เกิดความรู้ และ นวัตกรรม ชื่อเสียงต่อความน่าเชื่อถือและตราสินค้าของผู้ประกอบการ มากมาย มีผู้เข้ามาในงานเกษตรแฟร์ ในปี ๒๕๖๓ ถึง ๗๕๐,๐๐๐คน ใน ๙ วัน สร้างความโดดเด่นให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และเป็นความภาคภูมิใจที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ช่วยประเทศชาติ ช่วยสังคม

ปีนี้ ทาง กระทรวง อว. และ สวทช. ยังได้ร่วมจัดแสดงสินค้าและให้ความรู้เกี่ยวกับ BCG โดยนำสินค้าจากโครงการ U๒T จากมหาวิทยาลัยต่างๆ มาแสดง มากกว่า ๑๐๐ ร้าน นอกจากนี้ นอกจากมาตรการเคร่งครัด ทางสาธารณสุข ต่างๆ แล้ว มก. ยังได้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน นำ เนื้อหมู วัว ไข่ไก่ ราคาถูก และเป็นผลผลิตของมหาวิทยาลัยเพื่อช่วยประชาชนอีกด้วย และยังเปิดฉีดวัคซีนให้ประชาชนโดยทั่วไป ในระหว่าง๒๘-๓๐ มค. นี้ ในงานเกษตรแฟร์  เพื่อช่วยประเทศ และเป็นการช่วยประชาชนให้เข้าถึงวัคซีนได้เร็วขึ้นและปลอดภัยมากขึ้น

“เราต้องออกมาใช้ชีวิตอย่างปกติใหม่ภายหลังโควิด และ อยู่อย่างปลอดภัยโดยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและยั่งยืนเพื่อให้สังคม และประเทศ มีความเจริญก้าวหน้าและ แข่งขันได้กับนานาอารยประเทศ”

ข่าวโดย ผกามาศ ธนพัฒนพงศ์ / นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ/ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์