สถานการณ์ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.)
ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก และจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์การสู้รบในประเทศเมียนมา ในพื้นที่ตรงข้ามจังหวัดตาก ของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2564 เป็นต้นมา ได้เกิดการปะทะกันหลายครั้ง ระหว่างทหารเมียนมา กับ กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army : KNLA) กองพลน้อยที่ 6 ในพื้นที่บ้านเลเก้ก่อ จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ด้านตรงข้าม ตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก รวมทั้งในพื้นที่ตรงข้ามจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระหว่างทหารเมียนมา กับ กองกำลังชนกลุ่มน้อยเชื้อสายคะยา ทำให้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ได้อพยพข้ามมายังฝั่งไทย
ในการนี้ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้ กองกำลังนเรศวร รับผิดชอบอำนวยการดูแล ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ร่วมกับศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก และแม่ฮ่องสอน ให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ในพื้นที่อำเภอแม่สอด และอำเภอพบพระ จังหวัดตาก จำนวน 5 แห่ง บ้านมหาวัน, บ้านหมื่นฤาชัย, บ้านแม่ตาวกลาง, บ้านดอนชัย และบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง และในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ช่องทางทะนาควาย บ้านในสอย และช่องทางเนิน 585 บ้านน้ำเพียงดิน โดยได้ดำเนินการตามหลักมนุษยธรรม มีรายละเอียดดังนี้
1. ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก, ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน, จังหวัดตาก, จังหวัดแม่ฮ่องสอน กองกำลังนเรศวร และ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมดูแล ความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐานในการดำรงชีพ โดยมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ตามหลักมนุษยธรรม
2. จัดแพทย์ พยาบาล จากกระทรวงสาธารณสุข เข้าดูแลและให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้เจ็บป่วยในพื้นที่
3. ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก, ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับ กองกำลังนเรศวร อำนวยความสะดวกในการจัดยานพาหนะ รับ-ส่ง ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ในการเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยความสมัครใจ
4. กองกำลังนเรศวร จัดกำลังพล และ ยุทโธปกรณ์ ในการดูแลรักษาความปลอดภัย สถานที่พักพิงของ ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในพื้นที่
5. กองกำลังนเรศวร ได้เพิ่มมาตรการลาดตระเวนเฝ้าตรวจพื้นที่ ตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง ด้วยจักรยานยนต์ทางยุทธวิธี, การเดินเท้า, ทางเรือ และขี่ม้าลาดตระเวนตามแนวชายแดน รวมทั้งได้จัด รถยานเกราะล้อยาง จากกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 ทำการลาดตระเวนในพื้นที่ด้วย
ปัจจุบัน (12 มกราคม 2565 เวลา 12.00 น.) สถานการณ์ปะทะภายในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ได้เริ่มคลี่คลายลงตามลำดับ ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ได้ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยความสมัครใจไปแล้ว จำนวน 9,501 คน คงเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) จำนวน 2,706 คน ใน 2 พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวเท่านั้น ได้แก่ บ้านมหาวัน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และช่องทางทะนาควาย บ้านในสอย อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ยังรอการเดินทางกลับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาในโอกาสต่อไป
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า การบูรณาการกำลังป้องกันชายแดนเพื่อปกป้องอธิปไตย และพิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติ จะได้ดำเนินการอย่างเข้มข้น เพื่อให้พี่น้องคนไทยทุกคนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งสร้างความมั่นคงให้ประเทศชาติสืบไป
คณะบรรณาธิการข่าว กองทัพภาคที่ 3
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก