ชาวบ้านร้องดำรงธรรมตรวจสอบธนาคารหมู่บ้าน ชาวบ้านฝากเงินไว้มากกว่า100 ล้าน แต่ทำไมเบิกไม่ได้
เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 64 ที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นางยุพิน นาคกลม ชาวบ้าน ต.นาบัว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก พร้อมผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมายื่นหนังกับนายอธิปไตย ไกรราช ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้ตรวจสอบธนาคารหมู่บ้าน ตามแนวพระราชดำริ ศูนย์สาธิตบริหารเงินระดับหมู่บ้าน
นางยุพิน นาคกลม ชาวบ้าน ม.4 ต.นาบัว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ธนาคารหมู่บ้าน ที่ตนและชาวบ้านนำเงินไปไว้นั้นเปิดมานานหลายปีแล้ว ตนและครอบครัวได้นำเงินไปฝาก เนื่องจากธนาคารหมู่บ้านให้ผลตอบแทนดี โดยช่วงแรกให้ดอกเบี้ยร้อย 14 บาท ตนจึงนำเงินไปฝากไว้รวมทั้งสิ้นประมาณ 5 แสนบาท และได้ค่าตอบแทนเป็นดอกเบี้ยกลับมาในตอนแรก แต่ช่วงหลังตนไปขอเบิกเงินคืนมา 3 แสนบาท ทำให้ตนเหลือเงินฝาก อีก 2 แสนบาท เพราะช่วงหลังทางธนาคารหมู่บ้านลดดอกเบี้ยลงเหลือร้อยละ 8-10 บาท ต่อมาตนได้ไปขอปิดบัญชีเพื่อต้องการใช้เงินจำนวน 2 แสนบาทที่ฝากเอาไว้ แต่ปรากฏว่าทางคณะกรรมการของธนาคารหมู่บ้าน ไม่ยอมให้ตนถอนเงินที่เหลือ แต่ให้ตนเบิกเงินออกมาได้เพียง 2,000 บาท แม้จะขอเบิกเงินของตนเองกี่ครั้ง ทางธนาคารหมู่บ้านกลับไม่ยอม โดยบอกว่าไม่มีเงินแล้ว ทำให้ตนและเพื่อนบ้านอีกจำนวนมากไม่สามารถเบิกเงินสดจากธนาคารหมู่บ้านได้เลย ถ้าจะให้เบิกได้ไม่เกิน 2,000 บาทเท่านั้น
น.ส.รัตนาภรณ์ เพชรภู่ ชาวบ้าน ม.4 ต.นาบัว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ตนได้ส่งเงินฝากไว้กับธนาคารหมู่บ้าน 2 บัญชี เป็นชื่อของตนเอง 1 บัญชี จำนวน 100,000 บาท และอีกบัญชีเป็นของลูกอีก 100,000 บาท ซึ่งตนได้เปิดฝากมานานหลายปีแล้ว เนื่องจากมีการให้ดอกเบี้ยที่ดีมากร้อยละ 8-14 บาท ตอนแรกๆได้ผลตอบแทนดี แต่ภายหลังได้ลดดอกเบี้ยลง ตนจึงไปขอถอนเงินทั้งหมด เพื่อจะนำไปเก็บไว้เป็นทุนและใช้จ่ายในครอบครัว แต่ทางธนาคารหมู่บ้านไม่ยอมให้เบิกเงิน โดยทางธนาคารหมู่บ้านแจ้งว่าไม่มีเงินให้เบิกแล้ว ทำให้ตนมีความกังวล เนื่องจากเงินที่ เอาไปฝากจะไม่ได้คืน จึงได้ชักชวนเพื่อนบ้านมาร้องที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้หน่วยงานเข้าไปตรวจสอบด้วยว่า ธนาคารหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีเงินของชาวบ้านที่ฝาก เอาไว้อยู่จำนวนเท่าไร เนื่องมีชาวบ้านจำนวนมากนำเงินสดมาฝากเอาไว้ เพื่อหวังผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 14 บาท
จากการสอบถาม ทราบว่า มีประชาชนและชาวบ้านทั่วไปหลายตำบล ในพื้นที่ อ.นครไทย ที่ได้นำเงินมาฝาก มี ต.นครไทย ต.นาบัว ต.ยางโกลน ต.ยางโกลน จำนวนนับพันคน ได้นำเงินมาฝากเอาไว้กับธนาคารหมู่บ้านแห่งนี้กว่า 100 ล้านบาท เพราะทุกคนหวังผลตอบแทนดอกเบี้ยที่งาม แต่ละรายฝากเงินระดับหลายแสนบากไปจนถึงหลายล้านบาท โดยในวันนี้ที่ตัวแทนชาวบ้านมาร้องศูนย์ดำรงธรรม เพื่อต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบที่ธนาคารหมู่บ้าน ว่าปัจจุบันยังมีเงินของชาวบ้านนำมาฝากไว้หรือไม่ และทำไมไม่ยอมให้ชาวบ้านเบิกเงินของตัวเอง
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก