กู้ภัยฯลุยน้ำเข้าช่วยชาวบ้านทับสะแกกลางดึก กระแสน้ำพัดคอสะพานขาดรถทุกชนิดไม่สามารถข้ามได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 18 พ.ย. 64 ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากอ่างเก็บน้ำคลองช่องลม อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนหลายร้อยหลังคาเรือนในพื้นที่ 3 ตำบล คือ ต.ทับสะแก ต.เขาล้าน ต.นาหูกวาง ได้รับผลกระทบเป็นวงกวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บนถนนสาย 1033 บริเวณคอสะพานหน้าวัดนาหูกวาง น้ำได้กัดเซาะคอสะพานเป็นรูขนาดใหญ่ประมาณ 3-4 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถข้ามได้ โดยได้มีการปิดการสัญจรในบริเวณสะพาน ห้ามรถทุกชนิด ผ่าน
นายพรชัย ชนะภัย หน.ชุดปฎิบัติการณ์ มูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถาน ทับสะแก เปิดเผยว่า เมื่อค่ำที่ผ่านมาได้เกิดน้ำหลากมาจากอ่างเก็บน้ำคลองช่องลม เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องมาหลายวัน โดยมีชาวบ้านหลายรายได้ติดต่อประสานงานมายังมูลนิธิฯให้เข้าช่วยอพยพออกมายังพื้นที่ปลอดภัย ตนพร้อมด้วย นายเสียวเง็ก จิรวัฒนาพร ประธานมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถาน อ.ทับสะแก นายวสุ โชคกิจการ และ นายลือยศ ภู่ทอง สจ. เขตอำเภอทับสะแก พร้อมทีมเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิฯ เข้าให้ความช่วยเหลืออพยพออกมายังที่ปลอดภัย โดยสถานการณ์ล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้ ระดับน้ำในคลองทับสะแกที่ไหลหลากเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ลดระดับลงอย่างต่อ ซึ่งคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมในวันนี้ น้ำที่ท่วมหลากในเมื่อคืนจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งจากสถานการณ์น้ำหลากเมื่อคืนนี้นอกจากจะส่งผลให้มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบหลายร้อยหลังคาเรือนแล้วยังทำให้ คอสะพานบริเวณหน้าวัดนาหูกวาง ถูกน้ำกัดเซาะเป็นรูกว้างขนาดกว่า 3-4 เมตร ส่งผลให้ล่าสุดรถทุกชนิดไม่สามารถข้ามผ่านได้ ซึ่งตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯได้รับร่วมกับผู้นำในพื้นที่ได้คอยอำนวยความสะดวกในบริเวณดังกล่าว และได้มีการแนะนำให้ชาวบ้านได้ใช้ทางเลี่ยง เนื่องจากเกรงจะได้รับอันตรายจากคอสะพานชำรุด
นายลือยศ ภู่ทอง สจ.ประจวบคีรีขันธ์ เขตอำเภอทับสะแก เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาระดับน้ำในคลองทับสะแกได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับน้ำปกติกว่า 5 เมตร ซึ่งจุดบริเวณคอสะพานจะเป็นช่วงหัวโค้งน้ำจึงแทงเข้ามาในบริเวณคอสะพานทำให้เป็นปัญหา พอน้ำเริ่มกัดเซาะใต้ผิวถนนที่เป็นคอสะพาน น้ำก็จะวนอยู่เฉพาะด้านหน้าทำให้จุดบริเวณตรงนี้พังเสียหาย จนแทงทะลุใต้พื้นถนนบริเวณคอสะพานทำให้ได้รับความเสียหาย โดยเมื่อช่วงเช้าเมื่อน้ำลดระดับลงจึงได้แจ้งหน่วยงานให้รีบดำเนินการซ่อมแซมเป็นการชั่วคราวเพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจรไปมาได้ ซึ่งถนนเส้นนี้ตั้งแต่แยกจากถนนเพชรเกษมเข้ามาก็จะเป็นในส่วนของ อบจ.เป็นคนดูแล ซึ่งในเบื้องต้นก็จะรีบดำเนินการซ่อมแซมเป็นการชั่วคราวให้ชาวบ้านได้ใช้งานได้ก่อน และจะให้นายช่างของ อบจ. ประสานงานกับทาง อบต. ดำเนินการตั้งงบประมาณดำเนินการปรับปรุงในส่วนนี้อีกครั้งต่อไป
ข่าว ณัฐธภพ พันสาย / จ.ประจวบคีรีขันธ์