ยิ่งเข้มยิ่งพบ หน่วยเฉพาะกิจคลองหาด กองกำลังบูรพา ชค.ทพ.13 สกัดกั้นแรงงานเขมร ได้ 33 คน ก่อนเข้าทำงานชั้นใน
พลตรี อมฤต บุญสุยา ผบ.กกล.บูรพา สั่งการให้กองกำลังป้องกันชายแดนของกองกำลังบูรพา ออกตรวจตราให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยปัญหาการลักลอบเข้าเมืองและการนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้า-ออก บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้สกัดกั้นและป้องกันการทำผิดกฏหมายทุกรูปแบบในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พ.ย.2564 กองร้อยทหารพรานที่ 1302 หน่วยเฉพาะกิจคลองหาด กองกำลังบูรพา ร่วมกับ สภ.คลองหาด , กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ร่วมฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ตรวจพบแรงงานชาวกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฏหมายโดยข้ามแดนมาฝั่งประเทศไทยที่บริเวณบ้านวังไหม ต.เบญจขร อ.คลองหาดจ.สระแก้ว จำนวน 33 คน ( ชาย 18 คน, หญิง 15คน ) ซึ่งจากการสอถามทราบว่า ทั้งหมดได้เดินทางมาจาก จ.บันเตียเมียนเจย เสียมเรียบ พระตะบอง และไปรเวง ซึ่งจะไปทำงานก่อสร้างทีทชลบุรี,ระยอง ,สมุทรปราการและ กทม. , เก็บผลไม้ ตัดอ้อย จันทบุรีและสระแก้ว โดยติดต่อผ่านนายหน้าชาวกัมพูชา ทาง Facebook ซึ่งก่อนการลักลอบข้ามเข้ามาในไทย ชาวกัมพูชาดังกล่าวได้รวมตัวกันที่ ต.บังเบง อ.มาลัย จ.บันเตียเมียนเจย โดยจ่ายค่านำพาจากกัมพูชาถึงที่ทำงานปลายทางในประเทศไทยรายละ 5,000 -9,000 บาท ส่วนการข้ามมาฝั่งประเทศไทยนั้น จะมีชาวกัมพูชานำทาง พาเดินและลักลอบข้ามแดนผ่านคลองน้ำใส (ชายแดนไทย – กัมพูชา ) เพื่อมารอขึ้นรถของผู้นำพาชาวไทย เข้าสู่ตอนในของประเทศ ตามที่ได้ติดต่อไว้ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ทหารไทยจับกุมได้เสียก่อน โดยทั้ง 33 คน ไม่มีเอกสารใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศและใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย
จากนั้นจึงได้นำตัวแรงงานทั้งหมดเข้าทำการคัดกรองโควิด-19 ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของชาวกัมพูชาทั้งหมดแล้ว อุณหภูมิเป็นปกติ พร้อมนำส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหาด เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป…
…จาก.ไตรรัตน์ มีวงษ์ จ.สระแก้ว…