ตามรอยผู้พิทักษ์ป่าเดินลาดตะเวนชายแดนไทย-สปป.ลาว 3 วัน 2 คืน พบไม้ประดู่ ล้มคาตอเพียง 9 ท่อน กับไม้แดงแปรรูป-อำพราง 36 แผ่น

ตามรอยผู้พิทักษ์ป่าเดินลาดตะเวนชายแดนไทย-สปป.ลาว 3 วัน 2 คืน พบไม้ประดู่ ล้มคาตอเพียง 9 ท่อน กับไม้แดงแปรรูป-อำพราง 36 แผ่น

ตรวจร่อยรอยตะเข็บชายแดน พบเพียง เส้นทาง ชักลากไม้ ไม่มีการใช้งาน ผอ.สำนักฯ 11

ย้ำให้ จนท.ป้องกันและพิทักษ์ป่า อช.ภูสอยดาวเข้าตรวจพื้นที่อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เพื่อเป็นการป้องปราม

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 29 ตุลาคม 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับจากสนธิกำลังและบูรณาการและปล่อยแถวกำลังพล ป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้มีค่าในอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูสันเขียว บริเวณพื้นที่ชายแดนประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ท้องที่ อ.บ้านโคก อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ และ จ.พิษณุโลกช่วงที่ผ่านมานั้น

โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ, จนท.พิทักษ์ป่า อช.ภูสอยดาว ตำรวจ.ตชด.ที่ 31 จนท.อส. ออกลาดตระเวนทั้งสิ้น 70 นาย พร้อมดำรงชีพกลางป่าในพื้นที่เสี่ยงเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน เพื่อปราบปราม สกัดกั้น ยับยั้ง การกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ เนื่องจากได้สืบทราบว่า มีผู้ลักลอบตัดไม้มีค่า คือ ไม้ประดู่ และไม้ชิงชัน ในเขต อช.ภูสอยดาวและเขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูสันเขียว


จึงได้แบ่งกำลังพล ออกเป็น 3 ชุด คือ ชุดที่ 1 เดินลาดตระเวนจากหลักปักปันเขตแดนที่ 26 ขึ้นไปทางทิศเหนือ ผลการปฏิบัติ คือ พบร่องรอยเส้นทาง ลักษณะใช้เป็นเส้นทางชักลากไม้ ไม่มีการใช้งานมานาน หญ้าเริ่มรกปกคลุมชุดที่ 2 เดินลาดตระเวนจากหลักปักปันเขตแดนที่ 26 ลงไปทางทิศใต้ พบร่องรอยเส้นทาง ลักษณะใช้เป็นเส้นทางชักลากไม้ ไม่มีการใช้งานมานาน หญ้าเริ่มรกปกคลุม ตรวจพบชาวบ้านฝั่งสปป.ลาว เข้ามาต้อนปศุสัตว์ ซึ่งจนท.ได้ตรวจสอบแล้วไม่พบอุปกรณ์สำหรับการล่าสัตว์/ทำไม้/แปรรูปไม้ จึงได้จดบันทึกทำประวัติและผลักดันกลับประเทศไป และตรวจพบไม้ประดู่ท่อน จำนวน 9 ท่อน ล่าสุด อช.ภูสอยดาวดำเนินการตรวจยึดดำเนินคดีต่อไปชุดที่ 3 ร่วมกับด่านไซเตส (ภูดู่) ช่องผ่อนปรนชายแดน (ช่องมหาราช) ร่วมปฏิบัติกับจนท.ภูสันเขียว และตรวจสอบแนวรอยต่อพื้นที่อช.ภูสอยดาว ตรวจพบร่องรอยการตัดและแปรรูปไม้ และไม้แปรรูปจำนวนหนึ่ง เตรียมจะสร้างบ้าน ลักษณะอำพรางปูพื้นเป็นไม้พื้น แต่ยังไม่มีการตอกตะปู จึงได้ประสานงานจนท.ป่าไม้ หน่วยฯ อต.6 (บ้านม่วง) กรมป่าไม้ ร่วมกันตรวจยึดไม้กระยาเลยแปรรูป (ไม้แดง) จำนวน 36 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.52 ลบ.ม. ( มีผู้ครอบครองชื่อย่อ ด.) เหตุเกิดที่บริเวณป่าบ้านส่องสี ม.7 ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด พิกัดที่ 47Q ระบบ WGS 84 ที่ 706802 E 1963946N ซึ่งอยู่ติดต่อกับเขตอช.ภูสอยดาว ระยะห่างประมาณ 20 เมตร และได้นำบันทึกเรื่องราว ไม้ของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเด่นเหล็ก ตามปจว.ข้อ 2 คดีที่ 48/64 ยึดทรัพย์ที่ 22/64 โดยมอบให้หน่วยฯ อต.6 (บ้านม่วง) ดำเนินคดี

นายโกเมศ พุทธสอน ผอ.สบอ.11 เปิดเผยว่า ผลการปฎิบัตินั้น พบว่า มีการตัดไม้ประดู่ท่อนเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ถือว่า เป็นการดี ทรัพยากรป่าไม้ ไม่ได้ถูกทำลายลงไป แต่ก็ได้สั่งการให้นายบุญชู ไกรคง ผอ.ส่วนอนุรักษ์และป้องกันฯและ จนท.อุทยานแห่งชาติ เข้าตรวจพื้นที่อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เพื่อเป็นการป้องปราม เหลือไม้มีค่าไว้ให้คนรุ่นหลังต่อไป

เอนก ธรรมใจ รายงาน