ประกันสังคม เผยประกาศแพทย์ฯ เปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนกลุ่มเสี่ยงที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่ได้รับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำปี ระหว่าง 1 พ.ค.-31ส.ค.64 ที่ผ่านมา   สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนฯ ได้จนถึง 31 ธ.ค.64

ประกันสังคม เผยประกาศแพทย์ฯ เปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนกลุ่มเสี่ยงที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่ได้รับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำปี

ระหว่าง 1 พ.ค.-31ส.ค.64 ที่ผ่านมา   สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนฯ ได้จนถึง 31 ธ.ค.64

 

 

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงตามที่กระทรวงแรงงาน โดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีนโยบายส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคให้แก่ลูกจ้าง ผู้ประกันตน สำนักงานประกันสังคมจึงจัดให้มีการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคกรณีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza Vaccine) ให้แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป เพื่อให้การคุ้มครองดูแลผู้ประกันตนซึ่งเป็นแรงงานสำคัญของประเทศในลักษณะ ของการป้องกันมากกว่าการรักษา และเพื่อลดขั้นตอนการคัดกรอง วินิจฉัยผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจัดให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ณ สถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดปีละ 1 ครั้ง ซึ่งในปี 2564 นี้ ได้เปิดให้บริการช่วงระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ายังมีผู้ประกันตนกลุ่มเสี่ยงจำนวนไม่น้อย ยังไม่ได้มาใช้สิทธิ เข้ารับบริการฉีดวัคซีนฯ สำนักงานประกันสังคม โดยคณะกรรมการการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม ได้ออกประกาศ เรื่องหลักเกณฑ์ และอัตราค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน ลงวันที่ 30 กันยายน 2564 โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป ซึ่งประกาศดังกล่าว มีสาระสำคัญให้ผู้ประกันตนที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป มีสิทธิได้รับบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค กรณีฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ณ สถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดสิทธิในการรับบริการทางการแพทย์ของผู้ประกันตน ซึ่งยังไม่ได้รับบริการวัคซีน ไข้หวัดใหญ่ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา สามารถเข้ารับบริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในปี 2564 นี้ ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 โดยผู้ประกันตนกลุ่มเสี่ยงควรฉีดวัคซีนป้องกันทั้งไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนโควิด-19 โดยเว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ซึ่งข้อมูลจากกรมควบคุมโรค จะช่วยลดความเสี่ยงป่วยรุนแรงในสถานการณ์โควิด- 19 และไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดีสำนักงานประกันสังคม มีความมุ่งมั่นพัฒนาสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ เพื่อผู้ใช้แรงงานทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อได้รับความคุ้มครองอย่างครอบคลุมในทุกมิติทั้งนี้ ขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจว่าสำนักงานประกันสังคมจะดูแลผู้ประกันตน และพร้อมพัฒนางานด้านประกันสังคมให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องบนพื้นฐานปรัชญาการพัฒนาแบบยั่งยืน เพื่อให้เกิดความมั่นคงต่อชีวิตและสุขภาพของผู้ประกันตนต่อไป