รองปลัดเกษตรฯ เยี่ยมแปลงต้นแบบโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ พร้อมรายงานความคืบหน้าภาพรวมทั้งประเทศ
นายสำราญ สาราบรรณ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความคืบหน้าโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ ณ แปลงเกษตร มายด์ฟาร์ม ณ บ้านดงยาง ตำบลโนนห้อม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ว่า จังหวัดปราจีนบุรี มีเกษตรกรเข้าร่วมในโครงการ 273 ราย มีการจ้างงานเกษตรกร 130 ราย ในพื้นที่ 5 อำเภอ 29 ตำบล โดยความคืบหน้าของโครงการในขณะนี้ มีการขุดสระเก็บกักน้ำเสร็จแล้ว 215 ราย คิดเป็นประมาณร้อยละ 80 และอยู่ในระหว่างขุด 60 ราย โครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ ที่ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีนั้น นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเนื่องจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการล้วนมีความศรัทธาและสมัครใจที่จะเข้าร่วมโครงการ สภาพพื้นที่มีความเหมาะสม ดินดี ขุดสระได้ เก็บน้ำอยู่ น้ำดี มีต้นทุนการเกษตร นอกจากนั้น โครงการนี้ยังเป็นโครงการแรกของกระทรวงเกษตรฯ ที่มีการจ้างพี่เลี้ยงจากคนในตำบล ซึ่งทำให้เกิดความรัก ความผูกพัน ความสามัคคี ในการดูแลซึ่งกันและกัน รวมถึงเป็นตัวแทนในประชาสัมพันธ์ข่าวสารการเกษตรในตำบลตนเอง
ทั้งนี้ จังหวัดปราจีนบุรี ได้คัดเลือกเกษตรกรที่มีศักยภาพและความพร้อม สู่แปลงระดับตำบล ในพื้นที่ 5 อำเภอ 29 ตำบล เป็นจำนวน 87 ราย และแปลงต้นแบบระดับจังหวัด 1 ราย ได้แก่ แปลงเกษตร มายด์ฟาร์ม @ บ้านดงยาง ซึ่งมีความโดดเด่นในการวางแผนจัดการฟาร์มทุกกระบวนการอย่างมีเหตุมีผล ตั้งแต่การออกแบบและการวางแผนผังแปลงของพื้นที่ร่วมโครงการ การวางระบบการพัฒนาดิน แนวทางการบริหารจัดการน้ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การวางผังแปลงเพื่อการทำเกษตรกรรม ปลูกข้าว ประมง และปศุสัตว์ และการวางแผนผังปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น ตามหลักการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ บนพื้นฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งการนำตัวอย่างจากโครงการพระราชดำริเกษตรกรรม ดิน น้ำ ป่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และโครงการพัฒนาแบบบูรณาการและโครงการพัฒนาด้านอื่นๆ มาประยุกต์ พัฒนา และจำลอง (ขนาดจิ๋ว) เพื่อใช้จริง โดยเฉพาะการจัดการน้ำโดยหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในพื้นที่ของแปลง 4 ไร่ ที่เข้าร่วมโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่
สำหรับในภาพรวมของทั้งประเทศ ความคืบหน้าล่าสุด จากข้อมูล ณ วันที่ 9 กันยายน 2564 มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้น 28,224 ราย โดยแยกเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20,016 ราย ภาคเหนือ 3,957 ราย ภาคกลาง 2,376 ราย และภาคใต้ 1,875 ราย นอกจากนี้ยังมีการจ้างงานในโครงการ 13,649 ราย ในด้านการขุดสระเก็บกักน้ำ มีการดำเนินการทั้งหมด 28,011 ราย ขุดเสร็จแล้ว 23,720 ราย อยู่ในระหว่างการดำเนินการ 4,291 ราย
ด้านการอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรในด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ มีการดำเนินการอบรมเกษตรกรทั้งในรูปแบบปกติและการอบรมแบบออนไลน์ ซึ่งแบ่งการอบรมเป็น 4 เวที โดยเวทีที่ 1 นั้นได้มีการอบรมเสร็จสิ้นไปแล้วทั้งหมด ส่วนเวทีอื่น ๆ ได้ทยอยอบรมไปแล้วทั่วประเทศ ในด้านการสนับสนุนปัจจัยการผลิตได้มีการสนับสนุนวัสดุปรับปรุงบำรุงดินแก่เกษตรกร เช่น น้ำหมักชีวภาพ พืชปุ๋ยสด ฯลฯ สนับสนุนพันธุ์ปลาและอาหารสัตว์น้ำ สนับสนุนพันธุ์พืช ทั้งไม้ผล เมล็ดพันธุ์ผัก สมุนไพร ฯลฯ สนับสนุนพันธุ์สัตว์ เช่น ไก่ไข่ ไก่พื้นเมือง และปัจจัยการผลิตเพื่อทำอาหารสัตว์ นอกจากนั้นยังมีการให้ความรู้แก่เกษตรกรอย่างต่อเนื่องผ่านสื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินโครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ ตั้งแต่ปี 2563 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 บรรเทาปัญหาว่างงาน ลดปัญหาเคลื่อนย้ายแรงงานภาคเกษตรกรรมไปสู่ภาคอื่นๆ และสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนในท้องถิ่นเป็นแหล่งผลิตอาหาร โดยน้อมนำหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่มาเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการ
“เกษตรกรจะมีความรู้ความเข้าใจ และเรียนรู้แนวคิด หลักการ และรูปแบบของเกษตรทฤษฎีใหม่ในการบริหารจัดการน้ำ เรียนรู้การจัดทำแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยคำนึงถึงการทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ที่สามารถสร้างแหล่งอาหารของครัวเรือน ผลผลิตที่สามารถจำหน่ายสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตรและพึ่งตนเองด้านปัจจัยการผลิตให้มากที่สุด โดยขณะนี้โครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ได้ดำเนินงานรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว และปรากฏผลสำเร็จในพื้นที่เกษตรกรหลายแห่งทั่วประเทศ” รองปลัดกระทรวงเกษรและสหกรณ์ กล่าว