กรมส่งเสริมการเกษตรปรับรูปแบบให้บริการโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ ฯ ถึงพื้นที่หมู่บ้านและชุมชน ในช่วงวิกฤตโควิด – 19

กรมส่งเสริมการเกษตร ปรับรูปแบบการจัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ตั้งจุดให้บริการ ณ สำนักงานเกษตรจังหวัด/สำนักงานเกษตรอำเภอ เตรียมเจ้าหน้าที่ประจำจุดให้บริการคำแนะนำ เอกสารวิชาการ สนับสนุนปัจจัยการผลิต พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ออกให้บริการถึงพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน ช่วยแก้ไขปัญหาทางการเกษตร รวมทั้งบรรลุเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ของโครงการเช่นเดิม ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ที่ทวีความรุนแรงตลอด ปี 2564

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรปรับแนวทางการดำเนินงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ ฯ ไตรมาสที่ 4 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ดำเนินการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และตั้งจุดให้บริการโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ ฯ ณ สำนักงานเกษตรจังหวัด/สำนักงานเกษตรอำเภอ โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดให้บริการให้คำแนะนำ บริการเอกสารวิชาการ สนับสนุนปัจจัยการผลิต เช่น พันธุ์พืช ทั้งเมล็ดพันธุ์ และต้นกล้า หรือวัสดุการเกษตรอื่นๆ รวมทั้งจัดทีมเจ้าหน้าที่ออกให้บริการถึงพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน โดยเน้นการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ของจังหวัดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกษตรกรที่มีปัญหาการประกอบอาชีพด้านการเกษตรได้รับบริการทางวิชาการ และคำแนะนำในการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งได้รับปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ที่เป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพด้านการเกษตร ช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิต สามารถผลิตอาหารไว้บริโภคในครัวเรือน พึ่งพาตนเองได้ และให้เกษตรกรสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในช่วงวิกฤตโควิด – 19

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า สำหรับการให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ เป็นวิธีการดำเนินงานอย่างหนึ่งที่สามารถทำให้บริการทางวิชาการและการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์บรรลุผลสำเร็จตามภารกิจที่รับผิดชอบ โดยเป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุกที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายที่มีปัญหา ให้ได้รับบริการทางการเกษตรอย่างรวดเร็ว ทั่วถึงและครบถ้วน เช่น การวิเคราะห์ดิน การวินิจฉัย โรคพืช โรคสัตว์ โรคสัตว์น้ำ และการให้วัคซีนป้องกันโรค รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกอบรมความรู้การเกษตรเสริมเพิ่มเติมควบคู่กันไปด้วย ซึ่งเป็นการดำเนินการในลักษณะบูรณาการการทำงานระหว่าง นักวิชาการเกษตรของหน่วยงานต่างๆ ในแต่ละสาขา ทั้งด้านพืช สัตว์ ประมง ดิน และน้ำ ฯลฯ พร้อมนำอุปกรณ์และเครื่องมือทางวิชาการด้านต่างๆ มาให้บริการในคลินิกเกษตร โดยสามารถเคลื่อนที่เข้าไปได้ถึงในระดับตำบล เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้ารับบริการทางการเกษตรได้อย่างถูกต้องครบถ้วนทุกด้านในคราวเดียวกัน โดยดำเนินการในพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ

ทั้งนี้โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ ฯ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงมีพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับโครงการไว้ในพระราชานุเคราะห์ และทรงพระราชทานพระราชานุญาตอัญเชิญอักษรพระนามาภิไธยย่อไว้ในเครื่องหมายตราสัญลักษณ์โครงการ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2545 ณ ตำบลบ้านหลวง อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี และได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน