กองกำลังนเรศวร ลาดตระเวนเข้มพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
วันที่ 26 สิงหาคม 2564 กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แถลงข่าวประชาสัมพันธ์ ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 147 ศูนย์เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พันเอก รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 เป็นผู้แถลงข่าวฯ มีสาระสำคัญดังนี้.-
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ ประกอบกับที่รัฐบาลได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร โดยมีข้อกำหนดตามกรอบพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้พิจารณาให้ระงับการใช้ช่องทางการเข้าออกประเทศในทุกพื้นที่ที่มีเขตติดต่อชายแดน เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 มาจนถึงปัจจุบัน นั้น
ศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 3 ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเกิดจากการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวได้ โดยได้มอบหมายให้กองกำลังนเรศวร และกองกำลังผาเมือง ดำเนินการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจพื้นที่ตามแนวชายแดน โดยใช้วิธีการเดินเท้า และการใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการลาดตระเวนเป็นประจำอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบูรณาการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจพื้นที่ตามแนวชายแดน ในสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 เป็นไปอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น ในการนี้ กองกำลังนเรศวร (รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก และจังหวัดแม่ฮ่องสอน) จึงได้ริเริ่มนำสัตว์บรรทุกต่าง (ม้า และ ล่อ) มาเป็นพาหนะ ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มระยะทาง และดำรงระยะเวลาได้ต่อเนื่อง รวมทั้งการบูรณาการยุทโธปกรณ์ทางทหาร มาเพิ่มในการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ อีกทั้งเพิ่มทัศนวิสัยการตรวจการณ์ ในพื้นที่ตามแนวชายแดนที่ทุรกันดาร ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2564 เป็นต้นมา มีรายละเอียดการปฏิบัติดังนี้
1. การใช้สัตว์บรรทุกต่าง โดย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการ จำนวน 6 นาย ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจพื้นที่รับผิดชอบ พร้อมทั้งรับการสนับสนุนชุดม้าเป็นยานพาหนะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนที่ระยะไกล ในการป้องกันการลักลอบหลบหนีข้ามแดนโดยผิดกฎหมายและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทุกประเภท ตั้งแต่บริเวณ ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
2. การลาดตระเวนทางเรือ โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการ ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจตามลำน้ำสาละวิน ในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย และเฝ้าระวังภัยแทรกซ้อนต่อความมั่นคงชายแดนในทุกมิติ
3. การลาดตระเวนโดยรถจักรยานยนต์ โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการ รถจักรยานยนต์ยุทธวิธี/เชิงรุก ทำการลาดตระเวนเคลื่อนไหว เฝ้าตรวจ พิสูจน์ทราบ เพื่อเป็นการป้องกันของกลุ่มขบวนการ การลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ยาเสพติด และการกระทำความผิดกฎหมายอื่นๆ
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 3 ที่มีเจตนารมณ์ให้กองกำลังป้องกันชายแดน ได้ดำเนินการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจพื้นที่ตามแนวชายแดนอย่างเข้มข้น จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า ศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 3 พร้อมที่จะบูรณาการกำลังป้องกันชายแดนเพื่อปกป้องอธิปไตย, พิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติ รวมไปถึงการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 เพื่อให้พี่น้องคนไทยทุกคนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งสร้างความมั่นคงให้ประเทศชาติสืบไป
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก