นักวิจัยคณะเกษตร มก. พัฒนาต้นแบบปลูกกัญชาในระบบปิด และวิจัยสกัดสารสำคัญ เพื่อเพิ่มศักยภาพการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
“กัญชา” พืชเศรษฐกิจที่จะนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ สำหรับพืชชนิดนี้ได้รับความสนใจจาก ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เห็นความสำคัญเกี่ยวกับการปลูกกัญชา โดยปลูกและผลิตกัญชาในระบบปิด (indoor) เพื่อทำวิจัยและเพิ่มศักยภาพเพื่อการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ โดยเริ่มดำเนินการตามแนวทางการกำกับของคณะกรรมการพืชเสพติดของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา และได้รับอนุญาตให้ดำเนินการวิจัยกัญชา จึงได้ร่วมมือกับภาคเอกชนเดินหน้าพัฒนาห้องปลูกและห้องสกัดสารสำคัญจากกัญชา ในอาคารวชิรานุสรณ์ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน
รศ.ดร.ธานี ศรีวงศ์ชัย คณบดีคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยการปลูกและสกัดสารสำคัญจากกัญชาเพื่อการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ คณะเกษตร เปิดเผยว่า โครงการวิจัยนี้จะพัฒนาเป็นต้นแบบการปลูกกัญชาระบบปิด โดยมีทีมคณะนักวิจัยของคณะเกษตร ประกอบด้วย รศ.ดร.สุตเขตต์ นาคะเสถียร ภาควิชาพืชไร่นา รศ.ดร.พัชรียา บุญกอแก้ว ภาควิชาพืชสวน
รศ.ดร.ธิดา เดชฮวบ ภาควิชาโรคพืช , นายนฤพนธ์ น้อยประสาร และ น.ส.อมรรัตน์ ม้ายอง โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนในการพัฒนาห้องปลูกและห้องสกัดจาก บริษัท ทีเอช แคนนา จำกัด จำนวน 6.5 ล้านบาท และเครื่องมือสกัดสาระสำคัญ จำนวน 2.0 ล้านบาท และงบดำเนินงานปี 2564 – 2566 อีกจำนวน 2.0 ล้านบาท จาก บริษัท กรีนคัลติเวชั่น จำกัด โครงการวิจัยการปลูกและสกัดสารสำคัญจากกัญชาเพื่อการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ คณะเกษตร ได้ใบอนุญาตการปลูกและนำเข้ากัญชา (ใบอนุญาตปลูกเลขที่ 30/2563) จากกองควบคุมวัตถุเสพติด กระทรวงสาธารณสุขแล้ว จึงได้สั่งซื้อเมล็ดพันธุ์กัญชาสายพันธุ์ CBD Charlotte Angle จากบริษัทเอกชน ประเทศเนเธอร์แลนด์ จำนวน 150 เมล็ด มาปลูกในระบบปิด (indoor) หรือ “plant factory with artificial light (PFAL)” โดยใช้ห้องปลูก 2 ห้องในอาคารวชิรานุสรณ์ คณะเกษตร คือ ห้องปลูกเพื่อการเจริญเติบโตทางลำต้น (vegetative growth room) ที่มีการควบคุมช่วงแสงยาว คือมีการเปิดแสงสว่างนาน 18 ชั่วโมง และมืด 6 ชั่วโมงต่อวัน และห้องปลูกเพื่อการสร้างช่อดอก (reproductive growth room) ที่มีการควบคุมช่วงแสงสั้น คือมีการเปิดแสงสว่างนาน 12 ชั่วโมง และมืด 12 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งในสภาพแบบนี้จะทำให้ตายอด (apical meristem) ของต้นกัญชาเปลี่ยนจากการสร้างใบมาเป็นการสร้างช่อดอกแทน
การปลูกกัญชาในระบบปิด (indoor) จะควบคุมสภาพแวดล้อม ได้แก่ อุณหภูมิที่ 24 – 28 °C ความชื้นสัมพัทธ์ที่ 50 – 60 % การเพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซต์ที่ความเข้มข้น 1,000 ppm และมีพัดลมเพื่อการกวนอากาศให้มีการเคลื่อนไหว นอกจากนี้การปลูกในระบบปิดจะปลูกต้นกัญชาในวัสดุเพาะที่ ไม่มีธาตุอาหารและสารปนเปื้อนอื่น จึงต้องมีการให้ธาตุอาหารมากับระบบน้ำหยด
หลังจากปลูกได้ต้นกล้าอายุได้ 3 – 4 สัปดาห์ หรือมีใบจริง 5 – 6 คู่ใบ จึงเริ่มตัดแต่งทรงต้น (training) โดยใช้เทคนิคการตัดยอด (topping) เพื่อให้ตาข้างแตกเป็นยอดออกมา และตัดยอดแบบนี้ประมาณ 3 – 4 ครั้งเพื่อให้ได้ยอดประมาณ 12 – 16 ยอดต่อต้น และเลี้ยงไว้ในห้องปลูกประมาณ 6 สัปดาห์ ซึ่งสามารถวางกระถางชิดกันได้ จากนั้นย้ายต้นที่ได้ไปอีกห้องปลูกเพื่อกระตุ้นการสร้างตาดอก ในห้องปลูกจะจัดระยะ