เกษตรฯ เสนอ UN พลิกโฉมสู่ “ระบบอาหารและเกษตรที่ยั่งยืน
“เฉลิมชัย”แถลงต่อ UN ไทยนำโมเดลเศรษฐกิจสีเขียวมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
ขณะที่ปลัดเกษตรฯ เชิญชวนทุกประเทศปรับระบบผลิตอาหารให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีคุณภาพและปลอดภัยในราคาที่เข้าถึงได้
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุม Pre-Summit ผู้นำด้านระบบอาหารโลกของสหประชาชาติ (The 2021 UN Food Systems Summit) กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมถึงแนวทางพลิกโฉมระบบอาหารของประเทศไทยไปสู่ความยั่งยืน ด้วยนโยบาย 3S คือความปลอดภัย (Safety) ความมั่นคง (Security) และความยั่งยืน (Sustainability)
ที่สำคัญประเทศไทยได้นำโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy) มาใช้ในการพัฒนาและปรับตัว โดยมีการสนับสนุนการวิจัยและลงทุนทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนนำ “เกษตรอัจฉริยะ” และใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาภาคเกษตรให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ประเทศไทยพร้อมเป็น “ครัวของโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Kitchen of the World)” ช่วงที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมได้จัดเวที “ชวนคิดชวนคุย” (National Dialogues) รวมทั้งประชุมกับหน่วยงานสหประชาชาติ และ สำนักงาน FAO ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เพื่อรวบรวมแนวคิด ข้อเสนอแนะ และ แนวทางในการปรับเปลี่ยนพลิกโฉมระบบอาหารและภาคเกษตรของประเทศไทยไปสู่ความยั่งยืนเช่น 1) การสร้างความเข้มแข็ง ในการพึ่งพาตนเองด้านอาหารตั้งแต่ระดับครัวเรือน ประเทศไทยน้อมนำ “หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” และ “เกษตรทฤษฎีใหม่” มาเป็นแนวทางในการสร้างความเข้มแข็งให้ระบบอาหารและภาคเกษตรในระดับหมู่บ้านและตำบลทั่วประเทศ 2) การบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเน้นความสำคัญของบทบาทเกษตรกรรายย่อย สตรีและยุวเกษตรกร และ 3) การขับเคลื่อนนโยบายโลกไปสู่การปฏิบัติจริงในระดับพื้นที่ 4) การลดความเหลื่อมล้ำและทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงทรัพยากรได้อย่างยุติธรรม
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ย้ำว่า เราต้องมีระบบอาหารที่รักษาสมดุลในทุกมิติ ประชาชนทุกคนต้องกินอิ่ม มีสุขภาพดี และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ขณะที่นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยอัครราชทูตฝ่ายเกษตรและผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ FAO/IFAD/WFP ณ กรุงโรม เข้าร่วมการประชุม Ministerial Roundtable เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดในการปรับเปลี่ยนระบบอาหารของโลก และการดำเนินงานตามกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลายหลายทางชีวภาพ และการต่อต้านการแปรสภาพเป็นทะเลทราย (Rio Convention)
โดยปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวในที่ประชุมว่า ที่ผ่านมาระบบการผลิตอาหารของเราได้สร้างผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สร้างความเสื่อมโทรมของดิน ทำลายทรัพยาการธรรมชาติ และทำให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ดังนั้นในประเทศไทยจึงมอง “ระบบอาหาร” แบบองค์รวม ในการปรับเปลี่ยนและพลิกโฉมไปสู่ “ระบบอาหารและเกษตรที่ยั่งยืน”
ทั้งนี้ทุกฝ่ายต้องจับมือร่วมกันเพื่อเร่งดำเนินการให้ทุกคนมี “อาหารที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ” ในราคาที่ไม่แพงและเข้าถึงได้ เชื่อมโยงทุกนโยบายและบูรณาการการทำงานของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อนำไปสู่การสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืน” ตลอดจนต้องคิดใหม่ว่า ทำอย่างไรจึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลง หาวิธีการให้การผลิตอาหารหรือทำเกษตรไม่ส่งผลกระทบและไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งรัฐบาลต้องให้ความสำคัญ โดยกำหนดเป็น “วาระแห่งชาติด้านระบบอาหารและเกษตรที่ยั่งยืน
“ขอเรียกร้องให้ทุกประเทศและทุกคน ทำงานร่วมกันเฝสร้างระบบอาหารที่ดีขึ้น เพื่อทำให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ต่อไป” ปลัดกระทรวงเกษตรฯกล่าว