กรมปศุสัตว์ยกระดับทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ป้องกันลัมปี สกิน ระบาดในกระทิง วัวแดง และควายป่า มั่นใจไม่แพร่สู่สัตว์ป่า

กรมปศุสัตว์ยกระดับทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ป้องกันลัมปี สกิน ระบาดในกระทิง วัวแดง และควายป่า มั่นใจไม่แพร่สู่สัตว์ป่า

 

วันที่ 21 ก.ค. 2564 นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากการที่เกิดการระบาดของโรคลัมปี สกินใน โค กระบือ ในหลายจังหวัดของประเทศและมีความกังวลของหลายฝ่ายว่าจะแพร่ระบาดเข้าไปยังพื้นที่รักษาพันธุ์สัตวป่าห้วยขาแข้งที่นอกจากจะมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างหลากหลายแล้ว หนึ่งในนั้นก็มีสัตว์สำคัญอาศัยอยู่ด้วยนั่นก็คือ ควายป่า นั้นเท่าที่ทีการตรวจสอบพบว่าสัตว์ป่าในไทยที่ติดเชื้อและแสดงอาการของโรคลัมปี สกินได้ จะเป็นสัตว์ในกลุ่มพวก กระทิง วัวแดง ควายป่า ซึ่งหากติดเชื้อและเป็นโรค จะแสดงอาการเพียงเล็กน้อย ไม่แสดงอาการรุนแรง และเปอร์เซ็นต์การตายน้อยกว่า โค-กระบือของชาวบ้าน เนื่องจากสัตว์ป่ามีความแข็งแรงและทนต่อโรคต่างๆได้ดีกว่า

ทั้งนี้ต้องมีการเฝ้าระวังและป้องกันอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันล่วงหน้า ไม่ให้โรคแพร่ระบาดไปสู่ควายป่าโดยที่ห้วยขาแข้งจึงได้ดำเนินการงดการเคลื่อนย้ายโค-กระบือ ในพื้นที่ พร้อมทั้งได้ดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ให้กับโค-กระบือของเกษตรกรในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ตามรอยต่อของป่าเขตกันชนเขตรักษาพันธุ์สัตวป่าห้วยขาแข้งในรัศมี 5 กิโลเมตรจำนวน 95 ราย แบ่งเป็นโคจำนวน 1,160 ตัว และกระบือจำนวน 95 ตัว รวมทั้งสิ้น 1,255 ตัว พร้อมทั้งพ่นสารกำจัดแมลงบริเวณคอกเลี้ยงโค-กระบือและบริเวณโดยรอบ พร้อมทั้งให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องโรค และการป้องกันอีกด้วย นอกจากนี้ ได้ประสานให้ผู้ใหญ่บ้านประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจ ไม่ให้นำโค-กระบือเข้าไปเลี้ยงในพื้นที่ใกล้เคียงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอีกด้วย

ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ได้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ยกระดับมาตรการการป้องกันโรคลัมปี สกิน ไม่ให้ติดต่อไปยังสัตว์ป่า โดยจะเข้าดำเนินการในพื้นที่รอบเขตอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และวนอุทยานทุกแห่งที่มีสัตว์ป่ากลุ่มเสี่ยงได้แก่ กระทิง วัวแดง ควายป่า อาศัยอยู่ดังนี้
1. เร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ในโค-กระบือในพื้นที่ 5 กิโลเมตรจากชายขอบเขตของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และวนอุทยาน 2. ขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการควบคุมและกำจัดแมลงพาหะของโรค ในพื้นที่ 5 กิโลเมตรจากชายขอบเขตของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และวนอุทยานที่ใกล้แหล่งเลี้ยงโค-กระบือ โดยใช้ ยาพ่นฆ่าแมลงในพื้นที่ที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์พาหะ และฉีดพ่นบนตัวโค-กระบือ เช่น คอกเลี้ยงสัตว์ แหล่งที่มีน้ำขัง เป็นต้น3.ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนเกษตรกรในพื้นที่  หากพบโค-กระบือแสดงอาการผิดปกติตามประกาศ กรมปศุสัตว์ เรื่อง กำหนดลักษณะการป่วยหรือตายของโค หรือ กระบือ เพื่อป้องกันและควบคุมโรคลัมปี สกิน พ.ศ. 2564 ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่เพื่อควบคุมโรค รักษาพยาบาลสัตว์ป่วยและลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค4. ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และวนอุทยาน ดำเนินการป้องกันไม่ให้สัตว์ป่ากลุ่มเสี่ยง อาทิ กระทิง วัวแดง ควายป่า ออกหากินในพื้นที่ที่มีการเลี้ยงโค-กระบือ รวมทั้งไม่ให้เกษตรกรนำโค-กระบือเข้าไปเลี้ยงในพื้นที่ที่มีสัตว์ป่าอยู่อาศัยโดยมีระยะแนวกันชนประมาณ 1 กิโลเมตร 5. ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และวนอุทยานพ่นยาฆ่าแมลงในยาพาหนะที่เข้า-ออก ในพื้นที่ เพื่อลดความเสี่ยงของแมลงพาหะที่ติดมากับยานพาหนะ ซึ่งมั่นใจว่า มาตรการดังกล่าวนี้จะสามารถป้องกันโรคไม่ให้แพร่ระบาดไปสู่สัตว์ป่าได้อย่างแน่นอน

You May Have Missed!

1 Minute
โรงพยาบาล
สำนักอนามัยจัดกิจกรรมรณรงค์วันส้วมโลก ประจำปี 2567 ณ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์
1 Minute
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ จัดพิธีทำบุญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงพยาบาล
0 Minutes
ข่าวประชาสัมพันธ์
ทรู แจกใหญ่ จัดหนัก กับ แคมเปญ “รวยคูณสอง แจกทอง แจกรถ” ร่วมกับ 8 พาร์ทเนอร์ชั้นนำ มอบโชคใหญ่ให้ลูกค้าทรู ดีแทค รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท เพียงสมัครบริการเสริม ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลทันที ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พ.ค. 68
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
คณะกรรมการบริหารโรงเรียนปลูกปัญญา แต่งตั้ง “บิ๊กทิน” ผจก.ฟุตซอลทีมชาติไทย  เป็นประธานที่ปรึกษาโรงเรียน