“เฉลิมชัย” ขับเคลื่อนสมุนไพรแก้ปัญหาโควิด-19 จับมือกระทรวงสาธารณสุขและสภาการแพทย์แผนไทย
ระดม6พันคลีนิค เปิดฮอตไลน์สายด่วนใช้สมุนไพรและตำรับยาไทย ร่วมรักษาผู้ป่วยคิกออฟ “เพชรบุรีโมเดล” เดินหน้าการแพทย์ทางร่วม 3แนวทาง
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ”โควิด-19″ระลอกใหม่ที่รุนแรงมากขึ้นนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้เร่งส่งเสริมพืชสมุนไพรและตำรับยาไทยเพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-19โดยผนึกความร่วมมือกับสภาการแพทย์แผนไทยและกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุขเพื่อช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วน
จากการสั่งการดังกล่าวกระทรวงเกษตรฯได้จัดการประชุมหารือโดยประสานกับนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อประชุมการือร่วมกันเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยมีตน(นายอลงกรณ์ พลบุตร )เป็นประธานและมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยนายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ. พล.ร.อ.ชาญชัย เจริญสุวรรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทยพันเอกนายแพทย์ พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณาประธานมูลนิธิจิตเป็นผู้ให้ใจเป็นนิพพานนพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมกสรแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกระทรวงสาธารณสุขนายภญ.มณฑกา ธีรชัยสกุล ผู้อำนวยการกองสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ , รศ.ดร.ธัญญะ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พท.ภ.บัญชา สุวรรณธาดา ที่ปรึกษาโครงการพัฒนาการแพทย์ไทนร่วมสมัย และตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันว่าพร้อมดำเนินแนวทางการแพทย์ทางร่วมระหว่างการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์แผนไทยโดยใช้สมุนไพรและตำรับยาไทยควบคู่กับยาแผนปัจจุบันซึ่งมี3แนวทางในการขับเคลื่อน
1.แนวทางการป้องกันการติดเชื้อโดยใช้เครื่องยาสมุนไพรและตำรับยาไทย2.แนวทางการรักษาผู้ป่วยด้วยยาแผนปัจจุบัน เครื่องยาสมุนไพรและตำรับยาไทย 3.แนวทางการฟื้นฟูผู้ป่ายหลังการรักษาโดยเฉพาะกรณีLong COVID Syndrome ซึ่งในการประชุมร่วมกันในครั้งนี้สภาการแพทย์แผนไทยแจ้งว่าปัจจุบันมีคลีนิคแพทย์แผนไทย 6,000 คลินิคและแพทย์แผนไทยกว่า30,000 คนรวมทั้งศูนย์ฮ็อทไลน์แพทย์แผนไทยที่มีอยู่ทุกภาคและยังมีคลีนิคจิตอาสาแพทย์แผนไทยอีก60แห่งและคลังยาสมุนไพรและตำรับยาไทยของสภาการแพทย์แผนไทยที่พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มโดยในที่ขณะที่รองอธิบดีกรมแพทย์แผนไทยแจ้งว่ากระทรวงสาธารสุขมีแพทย์แผนไทยประจำโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งและมีการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนามเช่นที่กรุงเทพ นครปฐมและเพชรบุรีโดยจะเริ่มทดสอบแนวทางการแพทย์ทางร่วมที่โรงพยาบาลสนามจังหวัดเพชรบุรีซึ่งมีความพร้อมมากที่สุดเป็นแห่งแรกตามข้อเสนอของพอ.นายแพทย์พงศพศักดิ์ ตั้งคณาโดยให้มีการจัดกลุ่มผู้ป่วยตามกลุ่มยาและให้ตรวจเลือดผู้ป่วยทั้งก่อนและหลังการบำบัดรักษาเพื่อวัดผลลัพธ์หากได้ผลดีจะขยายผลต่อไป
นายอลงกรณ์บอกด้วยว่า ล่าสุดเมื่อวันที่6ก.ค.64 ที่ผ่านมาตนได้มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี สาธารณสุขจังหวัด ทีมแพทย์แผนไทยเพชรบุรี พ.อ.นายแพทย์ พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณาโดยนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีเห็นด้วยและพร้อมดำเนินการในการรักษาผู้ป่วยตามแนวทางการแพทย์ทางร่วม โดยในส่วนสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรีพร้อมดำเนินการทันทีที่มีคำสั่งจากกระทรวงสาธารณสุขให้สามารถดำเนินการทดสอบดังกล่าวโดย พ.อ.นายแพทย์พงศ์ศักดิ์แจ้งว่าพร้อมร่วมดำเนินการทดสอบและจะเป็นผู้สนับสนุนเครื่องยาและตำรับยาไทยเช่นฟ้าทะลายโจร กระชาย เบญจโลกวิเขียร(5ราก) จันทน์ลีลาเป็นต้น เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยอย่างเป็นระบบต่อไป
สำหรับการขับเคลื่อนในครั้งนี้ในส่วนกระทรวงเกษตรมีการดำเนินการสนับสนุนและส่งเสริมสมุนไพรไทยอย่างต่อเนื่องภายใต้นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ.และนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการฯ. โดยขับเคลื่อนนโยบายผ่านแผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทยประกอบด้วย 5 ด้านคือ 1.ด้านยุทธศาสตร์สมุนไพรแห่งชาติ 2 .ด้านการวิจัยและนวัตกรรมสมุนไพร 3 .ด้านวัตถุดิบสมุนไพร 4 .ด้านส่งเสริมอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพร และ 5 .ด้านส่งเสริมภาพลักษณ์และการตลาดสมุนไพร
ซึ่งกระทรวงเกษตรฯมีบทบาทหน้าที่ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การส่งเสริมผลิตผลของสมุนไพรไทยที่มีศักยภาพตามความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งจากการดำเนินการที่ผ่านมาได้สนับสนุนการปลูกพืชสมุนไพร 64,917 ไร่ จำนวน 80 ชนิด แบ่งเป็น พื้นที่ที่มาตรฐาน GAP จำนวน 54,755 ไร่ พื้นที่ที่มาตรฐาน Organic Thailand จำนวน 13,162 ไร่ พร้อมทั้งจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และกลุ่มเกษตรกร จำนวน 60 กลุ่มและมีการจัดทำมาตรฐานสินค้า GAP และมาตรฐานพืชสมุนไพรตามกลุ่มของส่วนที่ใช้ของพืช จำนวน 5 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 1หัว เหง้า และราก ฉบับที่ 2ใบ ส่วนเหนือดิน และทั้งต้น ฉบับที่ 3ดอก พืช สมุนไพรแห้ง ฉบับที่ 4 ผลและเมล็ด และฉบับที่ 5เปลือกและเนื้อไม้รวมทั้งยังมีการพัฒนาบุคคลากรเพื่อตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบสมุนไพร รวมทั้งแผนดำเนินการปรับปรุงห้องปฏิบัติการที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO 17025 เพื่อให้บริการตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบมาตรฐาน GAP หรือมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และได้จัดทำแผนที่ความเหมาะสมของที่ดินสำหรับปลูกพืชสมุนไพร (Land Suitability) จำนวน 24 ชนิด เช่นฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน ไพล บัวบก กระชายดำ กระชายเหลือง กระวาน ข่า ขิง คำฝอย ตะไคร้ บุก พริกไทย ว่านชักมดลูก กระเจี๊ยบแดง เก๊กฮวย ดีปลี บอระเพ็ด พญายอ เพชรสังฆาต มะระขี้นก มะลิ มะแว้งเครือ และมะแว้งต้น รวมทั้งจัดทำฐานข้อมูลพื้นที่ปลูกพืชสมุนไพร เพื่อให้มีฐานข้อมูลพื้นที่ปลูกสมุนไพรที่ชัด