กรมส่งเสริมสหกรณ์ ทุ่มงบกว่า 1.8 พันล. ช่วย 251 สหกรณ์ ปรับโครงสร้างภาคเกษตรสู้วิกฤติโควิด-19
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดวเผยว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการเกษตรซึ่งแหล่งรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรหลายแหล่งหยุดให้บริการ เกษตรกรไม่สามารถออกนอกพื้นที่เพื่อขายผลผลิตได้ ทำให้ผลผลิตได้รับความเสียหายส่งผลกระทบต่อรายได้และอาชีพของเกษตรกร อย่างมาก
กรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะหน่วยงานหลักในการส่งเสริม สนับสนุนและผลักดันให้สหกรณ์ภาคการเกษตร จำนวน 4,509 สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรจำนวน 4,661 กลุ่ม รวมไม่น้อยกว่า 9,170 แห่ง ซึ่งเป็นองค์ธุรกิจในระดับชุมชนเป็นที่พึ่งให้กับเกษตรกรสมาชิกและเกษตรกรทั่วไป จึงได้จัดทำโครงการปรับโครงสร้างการผลิต การรวบรวมและการแปรรูปผลผลิตของสถาบันเกษตรกรโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับศักยภาพสถาบันเกษตรกรให้เป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการผลผลิตทางการเกษตรตลอดห่วงโซ่การผลิตและเป็นกลไกหลักในระดับชุมชนในการอำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรสมาชิกและเกษตรกรทั่วไป ในการเพาะปลูก การรวบรวม จัดเก็บและแปรรูปผลผลิตการเกษตรรูป ในกรอบวงเงิน 1,881,674,900 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ที่ได้อนุมัติโครงการปรับโครงสร้างภาคการเกษตรเพื่อรองรับผลผลิตสถาบันเกษตรกรของ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งมีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ได้เสนอโครงการเข้ามาและผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการฯและสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช) จำนวน 251 แห่งใน 60 จังหวัด รวม 486 รายการ สามารถช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิกมากกว่า 2.7 หมื่นรายเป็นเงินกู้ของรัฐบาลที่นำมาฟื้นฟูเยียวยาเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในวงเงิน 1,881 พันล้านบาท โดยรัฐอุดหนุนงบไม่น้อยกว่า 90% อีก 10% ให้สหกรณ์จ่ายสมทบ
ทั้งนี้หลักเกณฑ์การพิจารณาจะต้องเป็นสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการจดทะเบียนตามกฎหมายอยู่ในระดับมาตรฐานสหกรณ์ชั้น 1 หรือชั้น 2 และผ่านมติเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรในการขอรับเงินอุดหนุน ซึ่งสหกรณ์จะต้องจัดทำแผนธุรกิจที่ชัดเจนและไม่มีปัญหาทางการเงินและบัญชี มีที่ดินเป็นของตนเองหรือกรณีเป็นที่ดินของรัฐจะต้องมีหนังสือรับรองการใช้ประโยชน์หรือสิทธิเหนือพื้นดินและไม่มีภาระผูกพันการค้ำประกันจำนอง ยกเว้นติดจำนองกับกองทุนพัฒนาสหกรณ์ จึงจะสามารถทำโครงการขอรับทุนอุดหนุนจากเงินก้อนนี้ได้