สภาองค์กรผู้บริโภคประจวบฯ ยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ และ สส. ประมวล ถึงรัฐบาล ชะลอเข้าร่วม CPTPPหวั่นส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน

สภาองค์กรผู้บริโภคประจวบฯ ยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ และ สส. ประมวล ถึงรัฐบาล ชะลอเข้าร่วม CPTPPหวั่นส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน

 

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 21 มิ.ย.64 นายนันทปรีชา คำทอง ประธานสภาองค์กรผู้บริโภคจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมตัวแทนศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค องค์กรคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค รวม 13 องค์กร นายวัชรินทร์ จันทร์เดช ประธานสภาองค์กรชุมชนจังหวัดประจวบฯ ตัวแทนสภาองค์กรชุมชนตำบลทั้ง 60 ตำบล และ ตัวแทนเกษตรวิถีธรรมชาติจังหวัดประจวบฯ ได้ร่วมยื่นหนังสือถึงรัฐบาล เพื่อชะลอเข้าร่วม CPTPP ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ  เป็นตัวแทน นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และได้เดินทาง มาที่ สาขาพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือ โดยมี นาย ประมวลพงศ์  ถาวราเดช สส.พรรคประชาธิปัตย์เขต 3 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รับหนังสือดังกล่าว

ทั้งนี้ เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศจำนวน 30 จังหวัด รวมทั้ง จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมใจนัดกันยื่นจดหมายต่อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ผู้ว่าราชการจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมในแต่ละจังหวัด ในวันที่ 21 มิ.ย. 2564 เพื่อเสนอต่อรัฐบาลให้ชะลอส่งหนังสือเข้าร่วม CPTPPจากการที่รัฐบาลไทย มีนโยบายที่พยายามจะนำประเทศไทย เข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ The Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership(CPTPP) โดยอ้างว่าจากข้อตกลงดังกล่าว ประเทศไทยจะได้ผลประโยชน์มากกว่าเสียผลประโยชน์นั้น

ทั้งนี้ เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศ เห็นว่า การเข้าร่วม CPTPP ยังไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะช่วยให้ไทยได้รับเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เนื่องจากเห็นว่ามีผลกระทบมากกว่าผลบวกดังนี้ ผลกระทบด้านลบต่องบประมาณ หรือ ค่าใช้จ่ายของประเทศนั้น จากข้อเสนอของสภาเภสัชกรรมต่อคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) พบว่า จะเกิดผลกระทบไม่น้อยกว่า 420,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 30 ปี รวมทั้งมูลค่าของอุตสาหกรรมผลิตยาในประเทศลดลงสูงสุดถึง 1 แสนล้านบาท ซึ่งค่าใช้จ่ายด้านยาที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงต่องบประมาณของรัฐ ในการจัดบริการสาธารณสุข โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านยาในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งจากการคาดการณ์ผลกระทบของ CPTPP ในระยะเวลาประมาณ 30 ปี (2562 – 2590) ประเทศไทยจะมีภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นมาจากการพึ่งพิงการนำเข้ายาที่สูงมาก ซึ่งส่งผลต่อค่าใช้จ่ายด้านยาที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และจะมีผลกระทบต่อความมั่นคงด้านยาของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


นอกจากนี้ผลกระทบของ CPTPP ต่อความมั่นคงด้านอาหารทั้งระบบตั้งแต่กระบวนการผลิตเกษตรกรรมจนถึงอาหารที่ผู้บริโภครับประทานดังนี้
1. เมล็ดพันธุ์แพงขึ้น เพราะเกิดการผูกขาดด้านเมล็ดพันธุ์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่กี่เจ้า ทำให้เกษตรกรไม่สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ในการนำไปปลูกต่อได้ ส่งผลให้เมล็ดพันธุ์จะไม่หลากหลาย เนื่องจากเกษตรกรไม่สามารถพัฒนาสายพันธุ์เองได้
2. เกิดการผูกขาดอุตสาหกรรมอาหารไม่กี่เจ้า ทำให้ต้นทุนในการผลิตอาหารแพงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภครับประทานอาหารที่แพงมากขึ้น
3. อาหารที่ผู้บริโภคจะไม่มีความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากจะมีหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดงจากแคนนาดาทะลักเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่มีการควบคุมมากขึ้น
4. มาตรฐานความปลอดภัยสินค้า GMO ต่ำกว่ามาตรฐานระหว่างประเทศ เนื่องจากความตกลงนี้อ้างอิงการประเมินความเสี่ยงบนฐานทางวิทยาศาสตร์ตามกรอบของ WTO เท่านั้น ซึ่งไม่ได้ใช้หลักการป้องกันเอาไว้ก่อน และไม่มีการคำนึงถึงผลกระทบอาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจสังคม

จากเหตุผลข้างต้น เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศจำนวน 30 จังหวัด จึงเห็นด้วยกับแนวทางข้อเสนอของสภาองค์กรของผู้บริโภค ที่เสนอให้คณะรัฐมนตรี คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ขอให้ตระหนักในผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนไทยทั้งประเทศ หากมีการเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการเจรจาเข้าร่วมความตกลง CPTPP ผ่านการพิจารณาด้วยความรอบคอบและมองประโยชน์ของประชาชนที่เป็นผู้บริโภคส่วนใหญ่ มากกว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจของกลุ่มคนส่วนน้อยของประเทศ ดังนั้นเครือข่ายองค์กรของผู้บริโภคทั่วประเทศ ขอให้มีการชะลอการส่งหนังสือแสดงเจตจำนงค์เข้าร่วม CPTPP จนกว่าที่จะมีการศึกษาผลกระทบที่แน่ชัดแล้วว่าคนไทยจะไม่ได้รับผลกระทบในด้านต่างๆ ที่ทำให้ผลเสียประโยชน์ในอนาคต

ด้านนายประมวลพงศ์ถาวราเดช ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์เขต 3 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังจากที่ได้รับหนังสือกล่าวว่าได้ประสานไปที่หน่วยงานรับผิดชอบโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ซึ่งก็ยังมีระยะในการดำเนินการของคณะข้อเสนอสภาองค์กรของผู้บริโภคต่อคณะรัฐมนตรีคณะกรรมาธิการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับข้อตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก
ซึ่งมีนายดอน ปรมัตถ์วินัยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่าง ประเทศ เป็นประธาน เมื่อมีการประชุมลงความคิดเห็น อยากให้มีคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ( กนศ)และ ต้องเชิญหน่วยงานต่างๆของรัฐ มาแสดงความคิดเห็น แล้ว อยากให้เชิญองค์กรทั้งสามองค์กรเข้าร่วมประชุมแสดงความคิดเห็นด้วย นายประมวลพงศ์ถาวราเดช กล่าว

พิสิษฐ์  รื่นเกษม  ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

You May Have Missed!

1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
องค์การสวนสัตว์ฯ เปิดบ้านต้อนรับพันธมิตรทำกิจกรรมร่วมกับ “หมูเด้ง” ชวนช่วยผู้ประสบอุทกภัยและดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
บพข. เปิดผลงานวิจัย 5 ปี พลิกโฉมการท่องเที่ยว – เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ยกระดับสู่ความยั่งยืน
1 Minute
เศรษฐกิจ
“อลงกรณ์ พอใจ” เอฟเคไอไอบิสซิเนส ฟอรั่ม  ประสบความสำเร็จเชื่อมโยงธุรกิจไทย-เกาหลี บรรลุข้อตกลงจับคู่ธุรกิจการลงทุนกิจการเทคโนโลยีชีวภาพ-สุขภาพ-สิ่งแวดล้อมพร้อมขยายความร่วมมือกับโกลบอลESG
0 Minutes
ข่าวภูมิภาค
พิธีทำบุญสารทเดือนสิบ ตามโครงการเสริมสร้างจริบธรรมคุณธรรม เสริมสร้างความรักชาติ และเสริมสร้างวินัยแก่คนในชาติ ของกรมการปกครอง