รองผู้ว่าฯ จ.มุกดาหาร ร่วมกับ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี แถลงข่าวการตรวจยึดกัญชาและเคตามีน ที่ มุกดาหาร
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ท.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.บุนสิน พาดกลาง ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี มอบหมายให้กองกำลังสุรศักดิ์มนตรีร่วมกับนายเชวงศักดิ์ พลเยี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พันเอกสุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 3 นายสมศักดิ์ บุญจันทร์ นายอำเภอหว้านใหญ่ พ.ต.อ.จารึก พุ่มระย้า ผกก.สภ.หว้านใหญ่ พ.ต.ท.ประภาส สุจันทา รอง ผกก.สส.สภ.หว้านใหญ่ ร.ท.นิคม ชินเขว้า ผบ.มว.คทร.ที่ 2 ร้อย.คทร.ที่ 1 ชอน.บ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี พ.ต.ท. จำเนียร เศษฤทธิ์ สว.สส.สภ.หว้านใหญ่ เจ้าหน้าที่ทหารพราน เจ้าหน้าที่ นรข. เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ตชด.234 มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอหว้านใหญ่ ร่วมกันแถลงข่าว การตรวจยึดกัญชา จำนวน 400.50 กิโลกรัม เคตามีน จำนวน 1 กิโลกรัม ที่บ้านป่งขาม ต.ป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร
สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติด (กัญชา) ล็อตใหญ่เข้ามาทางด้าน อ.หว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร จึงได้วางแผนสนธิกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองจัดชุดซุ่มตามท่าน้ำที่คาดว่ากลุ่มผู้ลำเลียงจะนำขึ้น จนกระทั่งเมื่อเวลา 22.30 น. ของวันที่ 5 มิ.ย.64 ได้พบเรือแล่นมาจากท่าน้ำฝั่งประเทศลาวมุ่งหน้าเข้ามาที่ท่าน้ำ บ้านป่งขาม หมู่ที่ 1 ต.ป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร โดยในเรือมีชายฉกรรจ์นั่งมาในเรือจำนวน 3 คน และนำเรือเทียบที่บริเวณท่าน้ำบ้านป่งขาม ฯ และยกกระสอบลงจากเรือมาวางไว้ที่ริมฝั่งท่าน้ำ ฯ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม กลุ่มชายฉกรรจ์ตกใจกระโดดวิ่งหลบหนีไปได้ โดยอาศัยความมืดและความชำนาญในการหลบหนี เจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ พบกระสอบปุ๋ยที่ห่อหุ้มด้วยถุงดำจำนวน 11 กระสอบ จึงได้นำของกลางมาทำการตรวจสอบที่ฐานปฏิบัติการ พบเป็นกัญชาจำนวน 400 แท่ง น้ำหนัก 400.50 กิโลกรัม และมี เคตามีน อีก 1 ถุง น้ำหนัก 1 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนมาในถุงปุ๋ย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท
จากการติดตามข้อมูลข่าวสารทราบว่า กลุ่มขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติ ได้เดินทางข้ามไปรับกัญชา จากนักค้าชาวลาว โดยจะได้ค่าจ้างเที่ยวละ 200,000 บาท โดยลำเลียงครั้งละประมาณ 400 กิโลกรัม มาขึ้นที่ท่าน้ำบ้านป่งขาม ต.ป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร อยู่เป็นประจำ
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด – 19 ทำให้ประเทศลาว มีการปิดพรมแดนและห้ามประชาชนคนลาวทำการประมงในแม่น้ำโขง จึงทำให้กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดนำกัญชามาพักไว้ตามหมู่บ้านแนวชายแดนเป็นจำนวนมาก และมีความพยายามที่จะลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทย ผ่านทางด้าน อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร และ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม อย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบัน กัญชา เป็นที่ต้องการของตลาดประเทศไทยและประเทศที่สาม โดยนำกัญชาไปผลิตเป็นยารักษาโรคจนเป็นที่นิยมของบุคคลทั่วไปเป็นจำนวนมาก และกัญชามีราคาแพงมากขึ้น แต่ข้อกฎหมายและบทลงโทษน้อยกว่ายาเสพติดประเภทอื่น
ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร