วอนช่วยยาย วัย 81 ปี เตรียมย้ายออก หลัง“กลุ่ม 23 ครอบครัว” แพ้คดีถูกสอบ เขตที่ดิน
นายขจรศักดิ์ เบ็ญชัย ทนายความชื่อดังและเลขาธิการ ชมรมนักกฎหมายเพื่อสิทธิที่ทำกิน ภาคอีสาน (ก.พอ.) จังหวัดสกลนคร เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับการร้องทุกข์ จากนางใบ ศูนยะราช อายุ 81 ปี บ้านเหล่าใหญ่ หมู่ที่ 2 ต.วัฒนา อ.ส่องดาว จ.สกลนครและกลุ่มชาวบ้านเหล่าใหญ่ ว่า ชีวิตลำบากเพราะต้องอาศัยอยู่กับลูกสาว มีหลานยังเด็กเล็ก 2 คน รวม 4 ชีวิต ไม่มีรายได้ อาศัยเงิน ช่วยเหลือสวัสดิการ จาก อบต. เบี้ยงยังชีพ ผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาท มาซื้อข้าวอาหารประทังชีวิต จึงพร้อมด้วยนายภิญโญ ขันติยู ผู้ประสานพรรคก้าวไกล จังหวัดสกลนคร และผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านดังกล่าว พบกับกลุ่มชาวบ้าน มีนางนกเอี้ยง,นางต้อย,ยายใบ และชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ที่มาคอยสังเกตการและยื่นหนังสือเพื่อ การร้องคัดค้านการสอบเขตที่ดินของเจ้าของที่ดินรายหนึ่ง เป็นคู่กรณีชาวบ้าน
นายขจรศักดิ์ เบ็ญชัย ทนายความชื่อดัง เลขาชมรมฯเล่าว่า ชาวบ้านเหล่าใหญ่ กว่า 23 ครอบครับ หรือ 125 คน ที่ได้รับผลกระทบ จากปัญหาการออกเสกสารสิทธิ ทับซ้อนของชาวบ้านกับรายอื่น ชาวบ้านอ้างว่าอยู่มาก่อนที่จะมีการประกาศ เป็นป่าสงวน ดงพันนา-ดงพระเจ้า และต่อมาก็ไม่ได้ทราบว่ามีการออกหนังสือแสดงสิทธิมาทับกับที่ของชาวบ้าน และจนมีการฟ้องร้องกัน ในครั้งแรก 7 ครอบครับ และปรากฏว่า เมื่อถึงที่สุด ชาวบ้านต้องถูกฟ้องขับไล่ ออกจากที่ดินตนเอง ต้องไปอาศัยศาลางกลางหมู่บ้าน และกลุ่มชาวบ้านจำนวน 13 ครอบครัว ที่อยู่ในชะตากรรมเดียวกัน ที่อยู่ในพื้นที่ติดกัน ก็ต้องเตรียมขนย้าย ทรัพย์สิน เครื่องใช้ในครัวเรือน ต้องออกนอกพื้นที่ดิน ที่อาศัย เหมือนกับ 7 ครอบครัวที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.63 ตามคำพิพากษาของศาลฎีกา ยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ออกจากที่ดิน ห้ามยุ่งเกี่ยว และทำประโยชน์ ทำให้ทุกวันนี้ชาวบ้านต่างกังวลว่า จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุม หรือบังคับใช้กฎหมายให้ย้ายออกนอกพื้นที่เพราะยังไม่รู่ว่าจะต้องย้ายออกไปอยู่ที่ใด ในช่วงนั้น ต่อมาคดีสิ้นสุด ทำให้ชาวบ้านทั้งหมดต้องออกไปจากที่ดิน และบ้าน ที่เคยอยู่อาศัย ทำกินมากว่า 35-40 ปี และวันนี้จะมีการมาสอบเขต รังวัดเพื่ออกเอกสารสิทธิ แต่ชาวบ้านเห็นว่าพื้นที่อยู่อาศัย ทำกิน เป็นเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งดงพระเจ้า –ดงพันนา ซึ่งทุกคนทราบดี จึงได้มารวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือคัดค้านในการสอบเขตรังวัดดังกล่าวว่า ที่นี่เป็นป่าสงวนแห่งชาติดงพระเจ้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่รอการยื่นหนังสือดังกล่าว ได้มีนางใบ ศูนยะราช อายุ 81 ปี นั่งเหม่อมอง น้ำตารินอาบใบหน้า ซึ่งได้เข้าสอบถามทราบว่า บ้านเก่าหลังคาบ้านรั่ว อาศัยอยู่กับลูกสาว ที่แต่งงานแล้ว อายุ 34 ปี แต่อย่าร้าง มีลูก 2 คน ยังเด็กเรียนหนังสือทำงานรับจ้างกรีดยาง มาซื้อข้าว และอาหาร ส่วนยายใบ ได้รับเงินสวัสดิการผู้สูงอายุ เดือนละ 800 บาท พอได้ซื้อข้าวกินไปวันๆ นางใบเล่าว่า ชีวิตลำบากทำงานไม่ได้ ลูกคนอื่นหนีไปมีครอบครัวและมีฐานะไม่ค่อยดีนัก จึงต้องอยู่กันลำบาก บ้านที่ดินก็ถูกฟ้อง และเป็น หนึ่งในกลุ่ม 23 ครอบครัว ที่จะถูกยึดที่ดิน เป็นของคนอื่น ซึ่งมีที่ดินไม่ถึงงาน แล้วจะอยู่อย่างไร วันไหนไม่มีเงินซื้อข้าวก็ขอเพื่อนบ้านกิน”
อย่างไรก็ตามยายใบ ศูนยะราช วัย 81 ปี วิตกกังวลว่า เมื่อเขามารังวัดสอบเขต ออกหนังสือแสดงสิทธิ จะต้องถูกไล่ออก แล้วจะไปอยู่ที่ไหน ตนอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ปี 2505 แล้วก็มาเป็นแบบนี้ อยากให้ทางรัฐบาลมาช่วยเหลือพวกตน ทั้ง 23 ครอบครัวด้วย บางรายก็มีการออกหมายจับแล้วเนื่องจากไม่ยอมออก”
นายขจรศักดิ์ เบ็ญชัย ทนายคนดีคนดังเลขาชมรมฯ กล่าวว่า เรื่องนี้สู้กันมายาวนาน สุดท้ายก็เป็นแบบนี้ แพ้อะไรหลายคนคงทราบดี ก็ว่ากันไปตามแนวทางที่มี “ตอนอยากเป็นผู้แทน สส.ก็มาหาชาวบ้านอยากให้เลือก แต่พอเลือกแล้วก็เป็นแบบนี้ ช่วยชาวบ้านด้วย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากใครที่ต้องการประสงค์ให้ความช่วยเหลือ ในเรื่องสวัสดิการ เช่นเสื้อผ้า ที่ใช้ได้และเลิกใช้ สามารถส่งไปช่วยเหลือ และขุดเด็กเล็กนักเรียน ป.1-2 หรือส่งเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ ได้ที่หมายเลขบัญชี ชื่อนางใบ ศูนยะราช ธนาคาร ธกส. สาขาส่องดาว จ.สกลนคร บัญชีเลขที่ 020002728337 เงินฝาก ออมทรัพย์ เพื่อให้ความช่วยเหลือ
ทางด้านนายธนชาต ไชยทองพันธ์ ที่ปรึกษาชมรมนักกฎหมายเพื่อสิทธิที่ทำกิน ภาคอีสาน (ก.พอ.) จังหวัดสกลนครกล่าวว่า เรื่องนี้ก็ว่ากันไปตามแนวทาง ขาวบ้านก็ดูแล ส่วนจะออกไปหรืออย่างไร เชื่อว่ามีแนวทาง และข่องทาง ซึ่งก็ว่ากันไปตามกระบวนการ ทางกฏหมาย
ทีมข่าวภาพสนาม…/