ฝนหลวงฯ ช่วงชิงสภาพอากาศเร่งทำฝนช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรในภาคเหนือและภาคอีสาน ทันทีที่สภาพอากาศเหมาะสม
วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับกองทัพอากาศและกองทัพบก เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่การเกษตร การเติมน้ำในเขื่อน การบรรเทาไฟป่าและหมอกควัน รวมทั้งการยับยั้งและบรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บ ซึ่งมี 13 หน่วยฯ กระจายอยู่ทั่วภูมิภาคของประเทศไทย โดยเมื่อวานนี้ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 10 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.ลำปาง แพร่ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ สระบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ กาญจนบุรี สกลนคร นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่ลุ่มรับน้ำ เขื่อนและอ่างเก็บน้ำ จำนวน 13 แห่ง
ส่วน ด้านการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเช้าวันนี้ พบว่า ผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในเช้าวันนี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการ จำนวน 6 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ได้แก่ หน่วยฯ จ.เชียงใหม่ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.เชียงใหม่ จ.ลำปาง และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนกิ่วคอหมาหน่วยฯ จ.ตาก ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ตาก จ.เชียงใหม่ และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพลหน่วยฯ จ.พิษณุโลก ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.กำแพงเพชรหน่วยฯ จ.อุดรธานี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.อุดรธานี จ.สกลนคร จ.หนองคาย และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนห้วยหลวง เขื่อนอุบลรัตน์ หน่วยฯ จ.อุบลราชธานี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.อุบลราชธานีจ.ศรีสะเกษ จ.อำนาจเจริญ จ.ยโสธร และพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จ.อำนาจเจริญ จ.ยโสธร
หน่วยฯ จ.สระแก้ว ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สระแก้ว
ขณะที่ อีก 7 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จะติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน หากสภาพอากาศ มีการเปลี่ยนแปลงเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที