ต่อยอดงานวิจัย (วช.)-(กฟผ.) สนใจสร้างโรงงานต้นแบบ ผลิตหน้ากากนาโนป้องกันโควิด-19 และฝุ่น PM 2.5

ต่อยอดงานวิจัย (วช.)-(กฟผ.) สนใจสร้างโรงงานต้นแบบ ผลิตหน้ากากนาโนป้องกันโควิด-19 และฝุ่น PM 2.5

 

ผลสำเร็จของศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการพัฒนาหน้ากากนวัตกรรมนาโนป้องกันโควิด-19 และฝุ่น PM 2.5 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนทั่วไป ที่สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ให้การสนับสนุนทุนวิจัย ทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยสนใจสนับสนุนสร้างโรงงานต้นแบบเพื่อผลิตหน้ากากสำหรับเจ้าหน้าที่เหมืองแม่เมาะ และแจกจ่ายให้ประชาชน

ผศ.ดร.ว่าน วิริยา ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ หรือ (วช.) ในการผลิตหน้ากากนวัตกรรมนาโนป้องกันโควิด-19 และฝุ่น PM 2.5 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนทั่วไป ขณะนี้โครงการดังกล่าวได้รับความสนใจจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการสนับสนุนเงินทุนให้สร้างโรงงานต้นแบบเพื่อผลิตหน้ากากในเชิงอุตสาหกรรม มีระบบการผลิตที่ได้มาตรฐาน และนำเข้าเครื่องจักรสำหรับการผลิตมาจากต่างประเทศ เพราะในแต่ละปี (กฟผ.) ใช้หน้ากากประเภทนี้เป็นจำนวนมากเพื่อป้องกันฝุ่นละอองจากการทำงาน เพราะอยู่ในอุตสาหกรรมการทำเหมืองอยู่แล้ว (เหมืองถ่านหินแม่เมาะ) โดยหน้ากากที่ผลิตได้ส่วนหนึ่งจะนำไปให้พนักงานของ (กฟผ.) ใช้ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ อีกส่วนหนึ่งจะแจกให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณรอบๆ เหมืองแม่เมาะ จังหวัดลำปาง แต่จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในรอบที่ 2 จึงทำให้โครงการชะลอไป คาดว่าหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายจะเริ่มกลับมาดำเนินการต่อ

สำหรับคุณสมบัติของหน้ากากนาโนที่โครงการฯ ผลิต เป็นการนำแผ่นกรองนาโนจากประเทศไต้หวันมาทำเป็นไส้กรองในหน้ากากอนามัยที่สนับสนุนให้ชุมชนเย็บ แล้วนำมาฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวีเพื่อนำไปให้ประชาชนและแพทย์ใช้งาน แต่หลังจากเกิดการระบาดของโควิด-19 ในรอบที่สอง ไม่สามารถนำเข้าแผ่นกรองนาโนได้ โครงการฯ จึงได้ร่วมมือกับ รศ.ดร.นพวรรณ ชนัญพานิช มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ พัฒนาแผ่นกรองนาโนขึ้นใช้เอง ซึ่งมีคุณสมบัติในการกรองฝุ่นระดับเดียวกับหน้ากาก N95 โดยแผ่นกรองนาโนจากไต้หวันสามารถกรองอนุภาคขนาด 0.075 ไมครอน มีประสิทธิภาพป้องกันได้ 99% ส่วนแผ่นกรองที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ พัฒนาขึ้นสามารถกรองอนุภาคขนาด 0.1 ไมครอน มีประสิทธิภาพในการกรองได้ 80 % ถ้าเป็นละอองฝุ่นขนาด 0.5 ไมครอน มีประสิทธิภาพป้องกันได้ 96.5% ในขณะที่เชื้อโควิดที่แพร่กระจายในอากาศผ่านสารคัดหลั่ง เช่น การไอ การจาม การพูดคุย ซึ่งจะมีขนาดประมาณ 3-5 ไมครอน ดังนั้น หน้ากากนาโนจึงสามารถป้องกันได้ทั้ง PM 2.5 และป้องกันเชื้อโควิด-19


ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เปิดเผยว่า เป้าหมายสำคัญของการสนับสนุนการวิจัยพัฒนาหน้ากากรูปแบบต่างๆ เพื่อป้องกันฝุ่นและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อให้การพัฒนาเทคโนโลยีที่หลากหลายด้วยฝีมือของคนไทย เทคโนโลยีใดที่มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลในการใช้งาน มีต้นทุนที่เหมาะสม ก็มีโอกาสที่จะถูกยกระดับขึ้นสู่การผลิตเพื่อการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ต่อประเทศชาติ และเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการสร้างความเข้มแข็งและความก้าวหน้าให้กับงานวิจัยของประเทศไทย

สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน

You May Have Missed!

1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
“ทีเส็บ วีซ่า” ชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์ไมซ์เหนือระดับ  พร้อมสิทธิประโยชน์-ประสบการณ์สุดพิเศษในไทย ผ่านบัตร “Thailand MICE Visa Prepaid Card” เพียงใบเดียว
0 Minutes
ข่าวประชาสัมพันธ์
กิ่งกาชาดอำเภอแม่สายตั้งโรงครัว เตรียมอาหารและน้ำดื่ม ให้ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม และเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานจากหน่วยงานต่างๆ ช่วยเหลือประชาชน
0 Minutes
สังคม
พบปะสังสรรค์ และพูดคุยหารือเรื่องข้อกฎหมาย 
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
องคมนตรี มอบรางวัล THAILAND MORAL AWARDS 2023 เชิดชูเกียรติ สื่อ บุคคล ชุมชนและองค์กร ที่สร้างแรงกระตุ้นและแรงบันดาลใจให้ทุกภาคส่วนของสังคม ย้ำเป็นก้าวสำคัญให้คนไทยตระหนักถึงการทำความดีว่าเป็นสิ่งที่ทำได้จริง และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมได้เป็นรูปธรรม