สลดเหยื่อโควิดประจวบฯชายอายุ 70 ปี ดับเพิ่มอีก 1 ราย ติดเชื้อจากลูกสาว – ลูกเขย เที่ยวผับหัวหิน
วันที่ 24 เมษายน นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 สะสม 964 ราย อยู่ระหว่างรักษา 771 ราย รักษาหายแล้ว 191 ราย มีผู้ป่วยโควิดติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัดวันนี้ 23 ราย ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่รพ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นชายอายุ 70 ปี ชาว อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มีประวัติเป็นผู้ป่วยติดเตียง มีโรประจำตัวเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตเรื้อรัง ติดเชื้อโควิดหลังจากลูกสาวและลูกเขยที่ติดเชื้อจากการเที่ยวผับที่ อ.หัวหิน แล้วกลับมาเยี่ยมบ้าน สำหรับจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงรักษาที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ มี 3 ราย แต่ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ที่ รพ.หัวหิน มี 14 ราย ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 3 รายขณะที่มีผู้ป่วยหญิงวัย 80 ปี อาการเริ่มดีขึ้นตามลำดับ และขอยืนยันว่า จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไม่มีปัญหาขาดแคลนเตียง หลังจาก รพ.หัวหินมีผู้ป่วย 489 ราย รพ.ปราณบุรี 146 ราย ขณะที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษา 93 ราย ยังไม่มีผู้ป่วยรายใดรักษาหาย
นายแพทย์สุริยะ กล่าวว่า สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดโซนสีแดง หากเป็นประชาชนใน จ.ประจวบฯ ขอให้กักตัวที่บ้าน 14 วัน รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ ผู้นำชุมชน หากเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจังหวัดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดให้รายงานตัวผ่าน QR Code และกักตัวในโรงแรมสถานที่พักตามระยะเวลาที่มาพัก ส่วนกรณีมาจากสถานที่ที่พบการระบาดสูงสุดตามประกาศของสาธารณสุข จ.ประจวบฯ ที่แจ้งเป็นรายวัน จะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 หากผลเป็นบวกต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลสนาม หากผลเป็นลบให้กักตัวอยู่ในโรงแรมสถานที่พักตามระยะเวลาที่มาพัก
นายชวรัช มานะกิจสมบูรณ์ เจ้าของโรงแรมแอทที บูทีค ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เปิดเผยว่า การระบาดของโรคโควิด 19 ในจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมสถานที่พักแล้ว เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชะลอการเดินทาง ขณะเดียวกันการที่จังหวัดออกประกาศคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยงแพร่ระบาด 13 ประเภทกิจการและกิจกรรม เพื่อควบคุมสถานการณ์ แม้จะไม่มีกิจการโรงแรมรวมอยู่ด้วย แต่จังหวัดมีมาตรการเพิ่มเติมให้กักตัว 14 วันผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด โซนสีแดง พบว่ายังมีปัญหาเกี่ยวกับความไม่ชัดเจนในแนวทางปฏิบัติสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา จ.ประจวบฯ โดยมีลูกค้าจำนวนมากโทรมาสอบถามว่าหากมาเข้าพักแล้วจะต้องถูกกักตัวหรือไม่ และไม่มีหน่วยงานภาครัฐมาชี้แจงแนวปฏิบัติให้ผู้ประกอบการได้รับทราบ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่เดินทางเข้ามาในช่วงนี้
“คาดว่าอัตราการจองห้องพักในเดือนเมษายนจะลดลงมากกว่าร้อยละ 90 ส่วนลูกค้ากลุ่มที่จะมาจัดอบสัมมนาก็มีการยกเลิกการจัดกิจกรรมทั้งหมด ขณะที่ผู้ประกอบการภาคเอกชนเห็นว่าการทำงานของสาธารณสุขจังหวัด ยังควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ดี ตั้งแต่ที่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนจากสถานบันเทิง โดยทำความสะอาดฆ่าเชื้อสถานที่ต่างๆ ตามไทม์ไลน์ของผู้ป่วยติดเชื้อโควิดทุกคน มีการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในประชาชนกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม แต่สิ่งที่ต้องการเสนอให้ภาครัฐเร่งดำเนินการมากที่สุดคือการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด 19 มาฉีดให้แก่บุคลากรด้านการท่องเที่ยวทั้งหมด รวมทั้งให้เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ละยี่ห้อเพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการฉีดวัคซีนโดยไม่มีอาการข้างเคียงที่รุนแรง เชื่อว่าวัคซีนโควิด 19 จะเป็นคำตอบสุดท้ายของการยับยั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 “นายชวรัช กล่าว
นายชวรัช กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่หัวหินได้มีการรวมกลุ่มกันประสานการทำงานกับภาครัฐ ดำเนินโครงการหัวหิน รีชาร์จ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของเมืองหัวหินหลังสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลาย โดยตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้กับบุคลากรด้านการท่องเที่ยวและประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะหัวหินถือเป็นสัญลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของ จ.ประจวบฯ หากนักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นก็อาจจะมีการเดินทางเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวในอำเภออื่นๆ ซึ่งสิ่งสำคัญคือผู้ประกอบการจะต้องเคร่งครัดปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขตามที่ภาครัฐกำหนด
พิสิษฐ์ รื่นเกษม ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์