ทหารพราน ฉก.นย.ทร. วิสามัญโจรใต้ดับ 1 จับได้ 2 แม่ทัพภาคที่ 4 เสียใจต่อเหตุสูญเสียที่เกิดขึ้น ยืนยันเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเท่าที่จำเป็น

จากกรณีเหตุคนร้ายขว้างระเบิดแสวงเครื่องใส่ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลลูโบะบายะ ม.4 ต.ลูโบะบายะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีไปตามเส้นทางรองในพื้นที่ ขณะที่ ชุด ชป.จรยุทธ์ ของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานนาวิกโยธิน กองทัพเรือ (ฉก.ทพ.นย.ทร.) ทำการลาดตระเวนอยู่บริเวณเส้นทางดังกล่าว จึงเกิดการปะทะขึ้น เป็นเหตุให้คนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต 1 ราย และจับกุมได้ จำนวน 2 ราย

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 เม.ย.64 เวลา 14.00 น. พ.อ.วัชรกร อ้นเงิน รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น วานนี้ (วันที่ 22 เม.ย. 64) เวลาประมาณ 19.45 น. ขณะคนร้ายจำนวน 4 ราย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จำนวน 3 คัน ได้ขว้างระเบิดแสวงเครื่อง (ไปป์บอร์ม) จำนวน 1 ลูก ใส่ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลลูโบะบายะ ม.4 ต.ลูโบะบายะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีไปตามเส้นทางรองในพื้นที่ บ.ยาโง๊ะ ม.5 ต.ลุโบะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ขณะที่ ชุด ชป.จรยุทธ์ ของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ทำการลาดตระเวนอยู่บริเวณเส้นทางดังกล่าว เมื่อได้ยินเสียงคล้ายระเบิดขึ้น จึงได้ทำการตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดแบบไม่ประจำที่ (POP UP) อยู่บนเส้นทางดังกล่าวบริเวณ บ.ยาโง๊ะ ต.ลุโบะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ห่างจากจุดขว้างระเบิดประมาณ 1.5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ จึงแสดงตนเพื่อเข้าตรวจสอบ แต่คนร้ายได้พยายามขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีจุดสกัด โดยคนร้ายที่ขี่รถจักรยานยนต์ คันที่ 2 ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่จุดสกัด จึงเกิดการปะทะกันขึ้น เป็นเหตุให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย จับกุมได้ 2 ราย และคาดว่าหลบหนีไปได้ 1 ราย รวมผู้ก่อเหตุ จำนวน 4 ราย พร้อมตรวจยึด อาวุธปืนกลอูซี่ (UZI) จำนวน 1 กระบอก และรถจักรยานยต์ จำนวน 3 คัน ส่วนเจ้าหน้าที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ
1. นายมะรอฟา เจะอาลี อายุ 32 ปี  (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ)
2. นายมะสูกี วามะ อายุ 25 ปี (ถูกจับกุม)
3. นายมูฮัมมัดซับรี ลาเตะ อายุ 26 ปี  (ถูกจับกุม)
4. ยังไม่ทราบชื่อ – สกุล (อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม)

ภายหลังเกิดเหตุ หน่วยได้ทำการปิดล้อมพื้นที่โดยรอบ และแหล่ง Support Site พร้อมตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด บนเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดี ตามขั้นตอนของกฎหมายให้ได้โดยเร็วต่อไป ปัจจุบันยังไม่จบภารกิจ รายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องมาจาก ในห้วงที่ผ่านมาปรากฏภาพข่าวแจ้งเตือนการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ จ.นราธิวาส ประกอบกับเหตุขว้างระเบิดใส่ฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้ารัฐหลายเหตุการณ์ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง และความเข้ม โดยเฉพาะในพื้นที่ล่อแหลมและเสี่ยงต่อการก่อเหตุ จึงทำให้การปฏิบัติในครั้งนี้สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว

โดย พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าว และติดตามการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด พร้อมได้กล่าวแสดงความเสียใจกับญาติ และครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่เองไม่ต้องการให้มีการสูญเสียเกิดขึ้นไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตาม แม้เจ้าหน้าที่จะปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง โดยการบังคับใช้กฎหมายเท่าที่จำเป็น และใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักแล้วก็ตาม แต่กลุ่มคนร้ายเลือกที่จะเปิดฉากยิงใส่ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องตอบโต้จนนำไปสู่การสูญเสียดังกล่าว

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยังคงยึดมั่นการแก้ปัญหาในพื้นที่ จชต. ตามแนวทางสันติวิธี โดยใช้แนวทางการเมืองนำการทหาร ด้ วยการใช้เวทีสภาสันติสุขตำบล ทั้ง 282 ตำบล 8 ชุมชนเทศบาล เพื่อรับฟังความคิดเห็นและแก้ไขปัญหาให้ตรงตามความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ก่อเหตุรุนแรงและผู้ให้การสนับสนุน เพื่อตัดวงจรการก่อเหตุรุนแรงและคืนความยุติธรรมให้เหยื่อที่ถูกละเมิด พร้อมกับขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร. 061 – 173 – 2999 หรือเบอร์สายด่วน 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ภาพ/ข่าว อับดุลหาดี/ยะลา
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน