ส.ป.ก. ส่งเสริมโครงการ พลิกวิกฤต COVID-19 หนุน OTOP สมุนไพรในชุมชนสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

ส.ป.ก. ส่งเสริมโครงการ พลิกวิกฤต COVID-19 หนุน OTOP สมุนไพรในชุมชนสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

 

 

นายวิณะโรจน์  ทรัพย์ส่งสุข  เลขาธิการ ส.ป.ก.เปิดเผยว่า ส.ป.ก.ร่วม กับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้หารือแนวทางการดำเนินงาน โครงการพลิกวิกฤต COVID-19 สู่การสร้างเศรษฐกิจจาก OTOP สมุนไพรในชุมชนอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายที่จะร่วมกันพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมพัฒนากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสมุนไพร เพื่อสร้างความรู้ในการปลูกสมุนไพรให้มีคุณภาพมาตรฐาน และส่งเสริมการแปรรูปสมุนไพร รวมถึงส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการที่มีสินค้าจากผลิตภัณฑ์สมุนไพรขยายสู่ตลาดสากล โดยใช้ภูมิปัญญา องค์ความรู้ ทรัพยากรท้องถิ่น นวัตกรรม เทคโนโลยี ในการบริหารจัดการขององค์กรชุมชนที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนั้นยังได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินการ 10 จังหวัด ได้แก่ 1.เชียงราย 2.ฉะเชิงเทรา 3.ชลบุรี 4.อุทัยธานี 5.อุตรดิตถ์ 6.นครราชสีมา 7.ปราจีนบุรี 8.นครพนม 9.ชุมพร และ 10.พัทลุง โดยมีกิจกรรมในการดำเนินงานที่สำคัญ คือการให้ความรู้แก่เกษตรกรในการปลูก แปรรูป การเก็บเกี่ยว เพื่อให้การผลิตสมุนไพรมีคุณภาพมาตรฐาน พัฒนาผลิตภัณฑ์/บรรจุภัณฑ์สมุนไพร จากฐานทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่นวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สมุนไพร โดยคาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรในชุมชนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 50 รายการรวมถึงการส่งเสริมการตลาดสมุนไพร โดยการจัดงาน OTOP สมุนไพรไทย และการจัดกิจกรรม Business Matching เพื่อสร้างและขยายโอกาสทางการค้าให้แก่เกษตรกรได้นำเสนอสินค้าสมุนไพรแก่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม

รวมทั้งยังมีการส่งเสริมการใช้สมุนไพรเพื่อรักษาโรคและสร้างเสริมสุขภาพในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในชุมชนการสร้างความเข้มแข็ง และบูรณาการในการบริหารจัดการด้านนโยบายการขับเคลื่อนงานสมุนไพรไทยอย่างยั่งยืนของรัฐบาลซึ่งคาดว่าจะเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้จากการผลิตสมุนไพร ให้แก่เกษตรกร แรงงานคืนถิ่น และผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ราย รวมถึงเกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 27 ล้านบาท

“ส.ป.ก. มีแผนให้ทั้ง 2 หน่วยงาน ร่วมมือกันขับเคลื่อนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่ปฏิรูปที่ดินโดยการส่งเสริมการพัฒนาการผลิต การแปรรูป และการตลาดสมุนไพรอย่างต่อเนื่อง และจะมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการปฏิบัติงานร่วมกันในลำดับถัดไป โดยจะมีการขยายผลไปสู่พื้นที่อื่นเพิ่มเติม เพื่อสร้างความมั่นคง แข็งแรง ให้แก่เกษตรกรในเขต ส.ป.ก. ต่อไปด้วย”นายวิณะโรจน์กล่าว