ทำแผนแก๊งอุ้มฆ่านักธุรกิจชาวจีน ตำรวจแจ้ง 5 ข้อหาหนัก

ทำแผนแก๊งอุ้มฆ่านักธุรกิจชาวจีน ตำรวจแจ้ง 5 ข้อหาหนัก

 

วันที่ 14 เม.ย.2564 เวลาประมาณ 15.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ธนากร วงส์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วยเจ้า หน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ควบคุมตัว นาย LU HAIBO อายุ 29 ปี สัญชาติจีน และนาย SHI XUNJIE อายุ 29 ปี สัญชาติจีน 2 คนร้ายที่ก่อเหตุอุ้มฆ่านักธุรกิจชาวจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณริมถนนเส้นทางชายทะเลบางหญ้าแพรก ม.6 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาทั้งสองลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงนาย JIAN JIA อายุ 33 ปี สัญชาติจีน เสียชีวิต และยิงนาย SIYANG ZHANG อายุ 29 ปี ได้รับบาดเจ็บ โดยคนร้ายทั้งสองลงได้ลงมือเหตุในช่วงเวลากลางดึกของวันที่ 13 เม.ย.64 จากการสืบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิตกับผู้บาดเจ็บเป็นคนสัญชาติจีน ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เป็นลูกน้องของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ซึ่งทั้ง 4 คน พักอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านพักภายในซอยอินทามระ 9 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ โดยเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2564 ช่วงเวลาประมาณ 20.30-21.30 น. ผู้ต้องหาทั้ง ๒ คน ได้ใช้อาวุธปืนและมีด จี้บังคับผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บให้ขึ้น รถยนต์ mitsubishi pajero สีดำหมาย เลขทะเบียน 7 กง 6103 กรุงเทพมหานคร

ที่บริเวณหน้าบ้านพัก จากนั้นจึงได้ขับมาที่ ม.6 ต. บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยผู้ต้องหาได้บังคับให้ผู้ตายและผู้บาดเจ็บโอนเงินให้กับผู้ต้องหา รวมทั้งสิ้นประมาณ 3,100,000 บาท หลังจากได้เงินแล้ว ผู้ต้องหาที่ 2 นาย LU HAIBO ได้ใช้อาวุธปืนยิง นาย JIAN JIA จนเสียชีวิต ส่วน นาย SIYANG ZHANG ถูกยิงที่บริเวณขา ได้รับบาดเจ็บ หลังจากก่อเหตุแล้วผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ขับรถยนต์หลบหนีไป จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามไปจนพบตัวผู้ต้องหาทั้งสองที่ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ซึ่งจากการตรวจค้น พบเอกสารประจำตัวและทรัพย์สินของผู้ตายและผู้บาดเจ็บจำนวนหลายรายการอยู่ที่ผู้ต้องหา รวมทั้งอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านเช่าที่ผู้ต้องหาเช่าหลบพักอาศัย ส่วนรถยนต์ที่ใช้ในเป็นยานพาหนะในการก่อเหตุนั้น ผู้ต้องหานำไปจอดทิ้งไว้บริเวณริมถนนสุขุมวิท ภายในจังหวัดชลบุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมด พร้อมกับเชิญตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร พนักงานสอบสวนได้รวมรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จึงได้ทำการจับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธทุกข้อกล่าวหา

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าว 1.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง 2.ร่วมกันซิงทรัพย์โดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัสและมีผู้ถึงแก่ความตาย 3.ร่วมกันพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 4.ร่วมกันมีอาวุธปีนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร 5.เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งสองยังให้การภาคเสธและไม่สอดคล้องกัน แต่เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน รวมทั้งได้มีการทำแผนให้ผู้ต้องหาชี้จุด ที่เก็บอาวุธปืนและมีดไว้ภายในรถยนต์ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ต้องลงมือ น่าจะเกิดจากความขัดแย้งเรื่องเงิน ผลประโยชน์ และหนี้สินต่างๆ หลังก่อเหตุผู้ต้องหาทั้งสองได้หนีไปที่บ้านพักย่านแสมดำ กรุงเทพฯ ก่อนจะไปถูกจับกุมได้ที่ร้านอาหารในจังหวัดชลบุรี เบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าคนร้ายมีจำนวน 2 คน และแบ่งหน้าที่กันทำงาน ตอนนี้เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการสอบสวน หากพบเชื่อมโยงถึงใครก็จะดำเนินคดีตามกฏหมาย นอกจากนี้คนร้ายยังให้การในลักษณะว่ามีการนัดใครบางคน ให้มาพบในที่เกิดเหตุ ส่วนเรื่องของธุรกิจที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการพัวพันกับธุรกิจสีเทานั้น ยังไม่สามารถสรุปได้ แต่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดคอมพิวเตอร์ที่บ้านพักผู้ต้องหามาตรวจสอบ คาดว่าว่าจะทราบรายละเอียดในเร็วๆนี้

 

ภาพ/ข่าว พญาราหู รายงานข่าวจาก จ.สมุทรสาคร

You May Have Missed!

1 Minute
โรงพยาบาล
สำนักอนามัยจัดกิจกรรมรณรงค์วันส้วมโลก ประจำปี 2567 ณ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์
1 Minute
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ จัดพิธีทำบุญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงพยาบาล
0 Minutes
ข่าวประชาสัมพันธ์
ทรู แจกใหญ่ จัดหนัก กับ แคมเปญ “รวยคูณสอง แจกทอง แจกรถ” ร่วมกับ 8 พาร์ทเนอร์ชั้นนำ มอบโชคใหญ่ให้ลูกค้าทรู ดีแทค รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท เพียงสมัครบริการเสริม ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลทันที ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พ.ค. 68
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
คณะกรรมการบริหารโรงเรียนปลูกปัญญา แต่งตั้ง “บิ๊กทิน” ผจก.ฟุตซอลทีมชาติไทย  เป็นประธานที่ปรึกษาโรงเรียน