ตม.จ.หนองคาย ใช้รถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ (BMW) สกัดจับขณะขนต่างด้าว เจ๋ง ดัดหลังต่อ ฟันหัวโจกขบวนการลักลอบขนคนเข้าเมือง

ตม.จ.หนองคาย ใช้รถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ (BMW) สกัดจับขณะขนต่างด้าว เจ๋ง ดัดหลังต่อ ฟันหัวโจกขบวนการลักลอบขนคนเข้าเมือง

 

วันที่ 14 เม.ย.64 เวลา 10.30 น.ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 อาคาร 1 สตม. (สวนพลู) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4,พ.ต.อ.เอกมนต์ พรชูเกียรติ,พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร,พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รอง ผบก.ตม.4 และ พ.ต.อ.พิษณุ สิทธิฑูรย์ ผกก.สส.บก.ตม.4 พร้อมชุดสืบสวนฯร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้าย ดังนี้

ตม.จ.หนองคาย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมตัวนายถาวร อายุ 48 ปี สัญชาติไทย และ MR.MAI อายุ 33 ปี สัญชาติ เวียดนาม ในข้อหา “ร่วมกันให้ความช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการถูกจับกุม” พร้อมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนามอีก 9 คน ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
โดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลาง รถยนต์กระบะอิซูซุ และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง จำนวน 2 เครื่องเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางส่ง พงส.สภ.เวียงคุก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จ.หนองคาย สืบทราบว่า จะมีขบวนการขนคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนามจาก สปป.ลาว เข้ามาในราชอาณาจักรผ่านช่องทางธรรมชาติชายแดน จ.หนองคาย เพื่อส่งไปยังพื้นที่จังหวัดชั้นในโดยใช้รถยนต์กระบะอิซูซุ ในการดำเนินการจึงสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบจับกุมตามที่ได้สืบทราบมา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า รถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้ไปรับบุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม ซึ่งลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง และจะพาไปส่งให้นายหน้าที่รออยู่ที่สถานีขนส่งอุดรธานี จึงนำรถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ (BMW) ออกตรวจสอบ

จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะลักษณะตรงกับข้อมูลจากการสืบสวน โดยรถยนต์กระบะคันดังกล่าววิ่งมาจากริมฝั่งแม่น้ำโขง ต.เมืองหมี อ.เมือง จ.หนองคาย มุ่งหน้าไปตามถนนสาธารณะ บ.นาพิพาน ม.4 ซึ่งเป็นเส้นทางรอง เข้ามาบริเวณจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเปิดไฟวับวาบพร้อมแสดงตัวให้สัญญานหยุดรถผู้ขับขี่รถยนต์กระบะจึงหยุดรถให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเข้าตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบนายถาวร อายุ 48 ปี เป็นผู้ขับขี่โดยมีบุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม รวม 9 คนโดยสารมาด้วย เมื่อตรวจสอบบุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม 9 คน ไม่พบตราประทับการอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักร พร้อมรับว่าพวกตนหลบหนีเข้าเมืองจริง

โดยติดต่อชายสัญชาติเวียดนามที่อยู่ สปป.ลาว เพื่อให้ส่งพวกตนเข้ามายังฝั่งไทยด้วยเรือเล็ก โดย MR.MAI ได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อนายถาวร ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะ ให้ไปรับที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงเพื่อไปส่งยังสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอุดรธานี แห่งที่ 1 สอบถามนายถาวร รับว่า ตนได้รับการติดต่อว่าจ้างจาก MR.MAI โดยตกลงค่าจ้างเป็นเงิน 3,000 บาท เพื่อให้พาไปส่งยังสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอุดรธานีจริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำการขยายผลโดยให้นายถาวรฯ พาไปหา MR.MAI ซึ่งรอรับบุคคลต่างด้าวทั้ง 9 คน ที่บริเวณอาคารที่ตั้งบริษัทเชิดชัยทัวร์ เมื่อจอดรถ ขณะ MR.MAI กำลังเดินเข้ามาพบนายถาวรฯ เพื่อจะรับเอาคนต่างด้าวไปขึ้นรถประจำทาง และจ่ายเงินค่าจ้าง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม

พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง

สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน