ลุงตู่ช่วยด้วย…ชาวบ้าน 10 หมู่บ้าน วอนทบทวนผนวกป่าไพรพัฒนาเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ชาวบ้านมีมติเอกฉันท์ขอให้เป็นป่าตามมติ ครม.ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลาเหมือนเดิม

ลุงตู่ช่วยด้วย…ชาวบ้าน 10 หมู่บ้าน วอนทบทวนผนวกป่าไพรพัฒนาเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ

ชาวบ้านมีมติเอกฉันท์ขอให้เป็นป่าตามมติ ครม.ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลาเหมือนเดิม

 

เมื่อวันที่ 5 เม.ย.64 ที่หอประชุม อบต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายบุญมี เสนคราม กำนัน ต.ไพรพัฒนา , นายวีระสิทธิ์ นรสิงห์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 พร้อมด้วยแกนนำชาวบ้าน ต.ไพรพัฒนา ได้พากันแสดงรายชื่อชาวบ้านที่พากันลงชื่อคัดค้านการผนวกป่าไพรพัฒนาเข้าเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ โดยเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ นายถนัด สีดา นายก อบต.ไพรพัฒนา ได้เป็นประธานในการประชุมประชาพิจารณ์ชาวบ้านทั้ง 10 หมู่บ้านในเขต ต.ไพรพัฒนา เพื่อขอรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลาได้ดำเนินการจะผนวกป่าไพรพัฒนา ซึ่งเป็นป่าตามมติ ครม.ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา เข้าเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ โดยมีตัวแทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น นายสาธิต พันธุมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ตัวแทนป่าไม้ที่ ศก.4 ตัวแทนนายอำเภอภูสิงห์ ตัวแทนหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี มาร่วมรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน โดยมี นายบุญมี เสนคราม กำนัน ต.ไพรพัฒนา พร้อมด้วย ผู้ใหญ่บ้านทั้ง 10 หมู่บ้าน สารวัตรกำนัน ส.อบต.ไพรพัฒนาทุกหมู่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และชาวบ้านทั้ง 10 หมู่บ้านในเขต ต.ไพรพัฒนา จำนวนประมาณ 500 คน มาเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ ซึ่งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลาได้ชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับทราบถึงสาเหตุความเป็นมาของการที่จะมีการผนวกผืนป่าไพรพัฒนาเข้าเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ โดยมีการแสดงแผนที่ให้ชาวบ้านได้ทราบถึงแนวเขตต่าง ๆ ด้วย ซึ่งที่ประชุมประชาพิจารณ์ได้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง และชาวบ้านกว่า 500 คน ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์และได้ร่วมกันลงชื่อคัดค้านไม่เห็นด้วยกับการผนวกป่าไพรพัฒนา ซึ่งเป็นป่าตามมติ ครม.ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลาเข้าเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ


นายวีระสิทธิ์ นรสิงห์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านแซร์ไปร์ ต.ไพรพัฒนา กล่าวว่า การประชุมประชาพิจารณ์ ซึ่งมีชาวบ้านทั้ง 10 หมู่บ้านมาร่วมประชุม โดยมีตัวแทนของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมรับฟังและรับทราบด้วยนั้น ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ไม่เห็นด้วยกับการผนวกป่าไพรพัฒนาเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ทั้งนี้เนื่องจากว่า ขณะนี้ชาวบ้านในเขต ต.ไพรพัฒนา ได้รับความเดือดร้อนในการทำมาหากินเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ลูกหลานที่ไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ต้องถูกเลือกจ้างงานและกลับมาอยู่บ้าน ดังนั้นจึงได้พากันเข้าไปหาเก็บของป่าในเขตป่าไพรพัฒนา เช่น แมงจีนูน ผักหวาน กบ เขียด ผักกระโดน แมงจีซอน ไข่มดแดง และของป่าอื่น ๆ มาเป็นอาหารประทังชีวิตให้รอดพ้นไปวันๆ หากมีการประกาศให้ป่าไพรพัฒนาเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ชาวบ้านจะไม่สามารถเข้าไปหาเก็บของป่า ซึ่งเป็นครัวของชาวบ้านได้ ถ้าหากฝ่าฝืนเข้าไปหาเก็บของป่าในป่า ก็จะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดี จะทำให้กระทบต่อการดำรงชีวิตของชาวบ้านทุกคนทั้ง 10 หมู่บ้าน ซึ่งมีชาวบ้านอาศัยอยู่ทั้งสิ้นร่วม 8,000 คน ชาวบ้านทั้ง 10 หมู่บ้าน จึงขอให้คงสภาพป่าไพรพัฒนาให้เป็นป่าตามมติ ครม.ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลาเช่นเดิม เนื่องจากว่าชาวบ้านทุกคนรักป่าแห่งนี้และได้ช่วยกันรักษาป่าไพรพัฒนาให้คงความอุดมสมบูรณ์เอาไว้ เพื่อให้เป็นสมบัติของแผ่นดินและเป็นที่ทำมาหากินของชาวบ้าน ต.ไพรพัฒนาทุกคนต่อไป


นายบุญมี เสนคราม กำนัน ต.ไพรพัฒนา กล่าวว่า ตนในฐานะกำนัน ต.ไพรพัฒนา ได้รับทราบความคิดเห็นและความเดือดร้อนของชาวบ้าน ต.ไพรพัฒนาทุกคนแล้ว ที่ไม่เห็นด้วยกับการผนวกป่าไพรพัฒนาเข้าเป็นเขตอุทยานแห่งชาติและทราบว่าขณะนี้ได้มีการเตรียมที่จะมีการประกาศป่าไพรพัฒนาเป็นเขตอุทยานแห่งชาติแล้ว ตนพร้อมด้วยผู้นำหมู่บ้าน ส.อบต.และชาวบ้านทุกคนทั้ง 10 หมู่บ้านในเขต ต.ไพรพัฒนาร่วม 8,000 คน จึงกราบขอวิงวอน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขวัญใจผู้ยากไร้และขวัญใจชาวไทยทั่วประเทศ ขอได้โปรดกรุณาทบทวนไม่ให้ประกาศป่าไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นป่าตามมติ ครม.ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา เข้าเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ โดยขอความเมตตาให้คงป่าไพรพัฒนาไว้เช่นเดิม เพื่อให้ชาวบ้าน ต.ไพรพัฒนาช่วยกันดูแลรักษาป่าไพรพัฒนาให้เป็นครัวของชาวบ้านและเพื่อให้เป็นสมบัติของแผ่นดินร่วมกันต่อไป

ข่าว/ภาพ…… บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ