กก.2 สืบสวนสตม.จับกุม แก็งแขกขาวแสบ ทำทีมาขอซื้อของ-แลกธนบัตร

กก.2 สืบสวนสตม.จับกุม แก็งแขกขาวแสบ ทำทีมาขอซื้อของ-แลกธนบัตร

 

วันที่ 2 เม.ย.64 เวลา 10.30 น.ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วยพล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง,พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย,พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.ปฏิญญา จีรชนาสิน ผกก.2 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมชาวต่างชาติแสบ ทำทีมาขอซื้อของ-แลกธนบัตร โดยมีรายละเอียด ดังนี้

สืบเนื่องมาจากคดีนี้พบว่าเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งได้เผยแพร่ภาพว่า มีชาวต่างชาติ 2 คน มีลักษณะเป็นขบวนการลักทรัพย์ กล่าวคือคนหนึ่งทำทีมาซื้อสินค้าคือขนมจีน และขอแลกธนบัตร อีกคนทำหน้าที่ชวนแม่ค้าคุยจนสับสน พอสบโอกาสก็ลักทรัพย์เงินสดจำนวนเงิน 20,000 บาท จากนั้นได้หลบหนีไป จากการตรวจสอบ ภาพกล้องวงจรปิดบันทึกภาพชายต้องสงสัยน่าเชื่อว่าเป็นชาวต่างชาติ มีรูปพรรณสวมเสื้อแขนยาวลายสก็อต กางเกงสแล็คสีดำ อีกคนสวมเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงขาสั้น สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้าทั้งสองคน เดินเข้ามาที่ร้านขายขนมจีน โดยชายเสื้อลายสก็อตทำทีขอแลกธนบัตรกับเจ้าของร้าน ส่วนชายเสื้อเหลืองซื้อขนมจีนจากแม่เจ้าของร้าน ระหว่างนี้ทั้ง 2 คน ได้ทำทีชวนคุยให้แม่ค้าสับสน ก่อนที่ชายเสื้อเหลืองจะชวนแม่เจ้าของร้านไปอีกจุด ส่วนชายเสื้อลายสก็อต ก็ชวนแม่ค้าขายขนมจีนพูดคุยจนสับสน มือซ้ายของเขากำธนบัตรไว้ปึกใหญ่ ก่อนจะส่งธนบัตรส่วนหนึ่งคืนให้แม่ค้า แต่ยังมีอีก 1 ปึก ติดอยู่ในมือ แล้วรีบเก็บใส่กระเป๋ากางเกงของตนทันที โดยเหตุเกิดที่ร้านขนมจีนในตลาดเจ้าพรหม ตำบลหอรัตนไตร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องสงสัยดังกล่าวน่าเชื่อว่าก่อเหตุในหลายพื้นที่

ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2563 ได้รับแจ้งอีกครั้งว่า พบพฤติกรรมชายชาวต่างชาติ มีรูปพรรณสัณฐาน เสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ และรูปแบบการก่อเหตุลักษณะคล้ายกับการก่อเหตุเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 จ.พระนครศรีอยุธยา โดยทำทีมาขอแลกธนบัตรเพื่อเก็บสะสม คนร้ายก็ชวนคุยให้สับสน พอสบโอกาสก็ลักทรัพย์เป็นกระเป๋าเงิน ซึ่งมีเงินอยู่ในกระเป๋าไปจำนวน 40,000 บาท ก่อนเดินหลบหนีออกจากร้านไป เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ โดยผู้ก่อเหตุเป็นชายชาวต่างชาติ ต่อมาผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้ถูกศาลจังหวัดลำปางออกหมายจับที่ 198/2563 ลง 15 ธ.ค.63 ในข้อหา “ลักทรัพย์โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น”

จนนำไปสู่การสืบสวนจับกุม ดังกล่าวคือ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.2 บก.สส.สตม. ได้หาข่าวใช้เทคนิคสืบสวนจนทราบว่าชาวต่างชาติที่ก่อเหตุในคดีนี้ น่าเชื่อว่าเป็นกลุ่มแก๊งแขกผิวขาว มีลักษณะรูปพรรณคล้ายกับบุคคลในภาพที่ปรากฎในสื่อข่าวทางโทรทัศน์ จึงสืบสวนหาข่าวจนทราบว่าหลบหนีซ่อนตัวที่บริเวณ ถนนพระราม 9 ซอย 17 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสืบสวนหาข่าวและเฝ้าติดตามตัวว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ จนกระทั่งได้รับการยืนยันจากสายลับในพื้นที่พบผู้ต้องสงสัยตามภาพถ่ายที่ปรากฎในโทรทัศน์ หลบหนีอยู่ที่คอนโดฯแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงเข้าทำการตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย พบ MR.BOURI MOHSEN มีรูปพรรณสันฐาน ตรงกับบุคคลเดียวกับผู้ต้องหาตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ตรวจสอบกับระบบฐานข้อมูล PIBICS และ BIOMETRICS ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่ารายละเอียดตรงตามหมายจับของศาลจังหวัดลำปาง จริง จึงได้แสดงหมายจับ ให้ MR.BOURI ดู โดยให้การยอมรับเบื้องต้นว่าเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง จริง และยังไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน จึงได้จับกุมตัวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับและมีเดินทางเข้าออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวง ทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน