สุดโหด…ยิงทิ้ง 3ศพหนึ่งในนั้นยังเป็นเด็กชาย..

สุดโหด…ยิงทิ้ง 3ศพหนึ่งในนั้นยังเป็นเด็กชาย..

 

 

เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น.ของวันที่ 7 มีนาคม2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร เร่งตรวจสอบเหตุฆาตกรรม 3 ศพ บริเวณป่าละเมาะพื้นที่รอยต่อหมู่ 4 หมู่ 5 ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร หลังรับแจ้งจากชาวบ้านพบวัยรุ่นชายนอนตายกองรวมกันในป่า พบถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนตกอยู่ จำนวน 5 ปลอก
ชาวบ้านเผยทั้ง 3 ศพ เป็นแก็งลักเล็กขโมยน้อยในพื้นที่ ใกล้เคียงจุดพบศพ มีการสร้างเพิงพักใช้เป็นที่เผาสายไฟ สลดหนึ่งในผู้ตายเป็นเด็กอายุเพียง 14 ปี ด้านแม่เด็กอายุ 14 ร่ำไห้แทบขาดใจ บอกทั้งดุด่าห้ามคบเพื่อนแก็งนี้แต่ลูกไม่เชื่อ ตำรวจเร่งตรวจสอบพยานหลักฐานหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก. พ.ต.ท. ชุมพร ฉัตร์สงวนชัย รอง.ผกก.ป. พ.ต.ต.ปัชญา เตชะ สว.สส. เจ้าหน้าตำรวจสายตรวจรถยนต์ (201) สภ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.ท.สุขุม เพาะไธสง สว.กก.สส. และชุดสืบสวน ภ.จว.สมุารสาคร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบเหตุผู้เสียชีวิต 3 ศพ บริเวณป่าละเมาะพื้นที่รอยต่อ ม.4 และ ม.5 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ จุดเกิดเหตุเป็นป่าละเมาะ มีทางเดินเท้าเล็กๆเชื่อมต่อกับถนนคอนกรีต ไปยังจุดพบศพที่อยู่ห่างจากถนนคอนกรีตประมาณ 500 เมตร โดยสองข้างทางเป็นป่ารกตลอดทั้งแนว ระหว่างทางก่อนถึงจุดพบศพ เจ้าหน้าที่พบเพิงพักบังแดดและร่องรอยไหม้บนพื้นดิน ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ระบุเป็นร่อยรอยที่เกิดจากการเผาสายไฟเพื่อนำเอาทองแดงไปขาย ของแก็งลักเล็กขโมยน้อยในพื้นที่ เมื่อไปถึงจุดพบศพเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุ พบผู้ตายเป็นชายวัยรุ่น นอนกองรวมกัน 3 ศพ ตรวจสอบพบทั้งสามศพมีแผลถูกยิงที่บริเวณศีรษะ คาง และแขน รวมทั้งพบปลอกกระสุนตกอยู่ในพงหญ้ารวม 5 ปลอก และใกล้กับปลายเท้าของผู้ตาย เจ้าหน้าที่ยังพบตะกร้าสีดำซึ่งมี ขวดน้ำ แก้วน้ำ มีดปลายแหลม อุปกรณ์เสพยา วางอยู่ภายใน และยังพบรองเท้าแตะพร้อมมีดหัวตัดยาวประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่

นอกจากนี้ห่างออกไปไม่ไกลยังพบรถจักรยานจอดล้มอยู่หนึ่งคัน จากการสอบถามทราบว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. มีเด็กๆในละแวกใกล้เคียงประมาณ 6-7 คน เดินผ่านเข้ามายังจุดที่พบศพเพื่อไปเล่นน้ำในคลองที่เลยขึ้นไป เมื่อเด็กๆเห็นศพทั้งสามนอนกองรวมกันจึงได้เดินเข้าไปดู จากนั้นจึงได้รีบไปแจ้งให้ผู้ใหญ่ทราบเรื่อง โดยเด็กที่พบศพระบุว่ารู้จักกับผู้ตายทั้งสาม และเคยพูดคุยกันเนื่องเป็นคนที่อยู่ในละแวกเดียว รวมทั้งเคยเจอกับผู้ตายทั้งสามในบริเวณที่เกิดเหตุหลายครั้ง เพราะเด็กๆชอบมาเล่นน้ำที่นี่ ซึ่งผู้ตายทั้งสามมักจะใช้พื้นที่ป่าละเมาะเป็นจุดเผาสายไฟและเสพยา

ทั้งนี้ขณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบจุดเกิดเหตุ แม่ของเด็กชายคิว ได้เข้ามาดูที่เกิดเหตุหลังทราบเรื่องจากชาวบ้านและสงสัยว่าเป็นลูกชายตนเอง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดภาพถ่ายในโทรศัพท์มือให้ดู ก็ถึงกับปล่อยโฮและทรุดลงไปร่ำไห้กับพื้นด้วยความเสียใจ จากนั้นได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เด็กชายคิว เป็นลูกชายของตนซึ่งมีอายุเพียงแค่ 13 ย่าง 14 ปี โดยเมื่อประมาณบ่ายสามโมงได้เจอกับนายใหญ่ซึ่งเป็นเพื่อนของลูกชาย จึงได้ถามว่าเห็นลูกชายหรือไม่ ซึ่งนายใหญ่ตอบว่าเห็นอยู่กับนายออม แต่ตอนนั้นยังไม่ทราบเรื่องและไม่ได้คิดอะไร หลังจากทราบว่าลูกชายเสียชีวิตก็รู้สึกเสียใจโดยก่อนที่ลูกชายจะเสียชีวิต ตนเองไม่ได้พบหน้าลูกชายมาประมาณ 3-4 วัน ปกติลูกชายจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนและก็กลับบ้าน แต่ช่วงหลังๆลูกชายไม่ค่อยกลับบ้าน หรือบางครั้งกลับมาก็ไม่เจอกลับตนเองเนื่องจากตนเองต้องออกไปทำงาน แม่เด็กชาย เผยอีกว่า ลูกชายไม่ค่อยชอบเล่าอะไรให้ฟังจึงไม่ทราบว่าไปมีปัญหาอะไรกับใครหรือไม่ ซึ่งหลังจากลูกชายตนเองเลิกเรียนหนังสือก็ชอบมาเที่ยวคบกับเพื่อนแก็งนี้ โดยตนเองพยายามห้ามทั้งว่ากล่าวทั้งตีไม่ให้ลูกชายมาคบกับเพื่อนแก็งนี้ เนื่องจากเป็นพวกลักเล็กขโมยน้อยและเสพยา แต่ลูกชายก็ไม่ยอมเชื่อฟังยังคบหากับเพื่อนแก็งนี้อยู่ตลอด และตนเองก็ต้องทำงานจึงไม่มีเวลามาคอยตามลูกชาย  พร้อมกันนี้ยังฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์มาก คนร้ายลงมือทำกับเด็กทั้งทั้ง 3 คนซึ่งมีเด็กที่อายุยังไม่ถึง 14 ปี

ด้าน นายวิชาญ จันทร์โชติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสามศพเป็นเด็กที่อาศัยอยู่บริเวณรอบๆชุมชน ซึ่งเด็กแก็งนี้จะมีอยู่ด้วยกันประมาณ 5 คน ชอบรวมตัวกันลักเล็กขโมยน้อยในพื้นที่ เคยมีประวัติถูกตำรวจจับหลายครั้ง ล่าสุดเด็กแก็งนี้ก็ได้ไปขโมยสายไฟเพื่อนำมาเผาเอาทองแดงไปขาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปประเด็นสาเหตุการลงมือฆ่าโหดของคนร้ายในครั้งนี้ ซึ่งจะได้รวบรวมพยายานหลักฐาน และสอบปากคำพยานแวดล้อมเพิ่มเติม รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเร่งหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

ภาพ/ข่าว พญาราหู รายงานจาก จ. สมุทรสาคร