191 ทลายเครือข่ายลักลอบจำหน่ายกัญชาออนไลน์ ผ่านLine-Facebook ย่านพระราม 2
ตามนโยบายของรัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม มีผลกระทบต่อความสุขของพี่น้องประชาชนเป็นหนึ่งในปัญหาของชาติที่สำคัญต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง จึงมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เร่งรัดขับเคลื่อน การปราบปราม อย่างจริงจัง โดยบูรณาการกำลังทุกฝ่ายพร้อมกับหน่วยงานในทุกกองบัญชาการ
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย,พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร,พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน,พล.ต.ต.สหรัฐ
ศักดิ์ศิลปชัย,พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ,พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. สั่งการให้ พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเร่งรัดติดตามจับกุมผลการปฏิบัติงาน
จนกระทั่งเมื่อเมื่อวันที่ 3 มี.ค.64 เวลา 18.00 น. พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ 191 ได้รับแจ้งจากพลดีเมืองดีว่ามีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด (กัญชา) จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ไพบูลย์ สอโส สว.งานสายตรวจ 1 กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ งานสายตรวจ 1 กองกำกับการสายตรวจ ทำการสืบสวนติดตามจับกุม จนทราบผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยวิธี ชื้อขายออนไลน์ ผ่าน แอพพลิเคชั่น LINE และFacebook โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 4 ราย คือนายอิทธิพัทธิ์ หรือนัด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี,นางสาวกวินทิพย์ หรือเบส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี,นายทศพร หรือบอย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี และนายณัฐนันท์ หรือณัฐ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี พร้อมด้วยของกลางจำนวนหลายรายการคือ กัญชาอัดแท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 6.4 กิโลกรัม อยู่ในกล่องพัสดุเตรียมจัดส่ง จำนวน 25 กล่อง,กัญชาอัดแท่ง ห่อหุ้มด้วยพลาสติกใสซีล น้ำหนักรวมประมาณ 2.75 กิโลกรัม,กัญชาอัดแท่ง ห่อหุ้มด้วยกระดาษฟรอยด์ สีทอง น้ำหนักรวมประมาณ 2 กิโลกรัม และกัญชาอัดแท่ง ห่อหุ้มด้วยกระดาษฟรอยด์สีทอง น้ำหนักรวมประมาณ 6 กิโลกรัม พร้อมกับยึดรถยนต์กระบะ โตโยต้า รีโว่,รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น N-Max และอื่นๆ โดยสามารถจับกุมได้ที่ หน้าตึกเคหะธนบุรี 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ บก.สปพ. ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบกลุ่มวัยรุ่นมีพฤติกรรมจำหน่ายกัญชาผ่านช่องทางแอพลิเคชั่น LINE และFacebook โดยจัดส่งกัญชาผ่านช่องทางขนส่งเอกชน เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ บก.สปพ. จึงทำการสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มคนดังกล่าวจะใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ N-Max สีดำ จำนวน 2 คัน หมุนเวียนกันไปส่งกัญชา ที่ขนส่งเอกชน และสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวพักอาศัยอยู่ที่ เคหะธนบุรี 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ จากนั้นวันที่ (1 มี.ค.64)
เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ บก.สปพ. จึงได้วางแผนการจับกุม และสังเกตการณ์โดยรอบภายในเคหะธนบุรี 2 เวลาประมาณ 15.45 น. พบหญิง ลักษณะคล้าย น.ส.กวินทิพย์ฯ เดินถือถุงพัสดุลงมาจากตึก เพื่อมาส่งให้กับขนส่งเอกชน เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 1 จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงความบริสุทธิ์ใจ จนเป็นที่พอใจ ขอทำการตรวจค้นกล่องพัสดุจำนวน 25 กล่อง ดังกล่าว พบกัญชาอัดแท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 5 กิโลกรัม จากนั้นพบชาย ลักษณะคล้าย นายอิทธิพัทธิ์ฯ กำลังจอดรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปแสดงตัวและความบริสุทธิ์ใจ จนเป็นที่พอใจและสอบถามนายอิทธิพัทธิ์ฯ ให้การรับว่าพัสดุที่ น.ส.กวินทิพย์ฯ ถือลงมาส่งนั้น ตนเป็นคนสั่ง ให้น.ส.กวินทิพย์ฯ ถือลงมาส่งให้เนื่องจากตนติดธุระ และยังรับอีกว่ายังมีกัญชาอีกจำนวนหนึ่งที่ซุกซ่อนอยู่บนห้องพักและสมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้น พบกัญชาอัดแท่ง จำนวนประมาณ 2.5 กิโลกรัม พร้อมกล่องพัสดุ เลขกำกับพัสดุวางอยู่ภายในห้องพัก
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามนายอิทธิพัทธิ์ฯเพื่อขยายผลการจับกุม นายอิทธิพัทธิ์ฯ ให้การว่ายังมี นายทศพรฯ ที่อาศัยอยู่คนละตึก ตนมักจะใช้ให้นายทศพรฯไปรับกัญชาและไปส่งกัญชาให้แก่ขนส่งเอกชน จากนั้นนายอิทธิพัทธิ์ฯ สมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่ห้องพักของนายทศพรฯ จากการตรวจสอบพบนายทศพรฯ อยู่ในห้องดังกล่าว สมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้น พบกัญชาอัดแท่ง จำนวน 2 กิโลกรัม วางอยู่ที่ระเบียง จากนั้นนายอิทธิพัทธิ์ฯ ให้การอีกว่าตนสามารถสั่งซื้อกัญชา ได้อีกจำนวน 5-10 กิโลกรัม จากนายณัฐนันท์ฯ ซึ่งอาศัยอยู่ที่ซอยอนามัยงามเจริญ 31 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงวางแผนการจับกุม พบชายลักษณะคล้ายนายณัฐนันท์ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้นจับกุม พบกัญชาอัดแท่ง จำนวน 6 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์จากการตรวจสอบข้อมูลการส่งพัสดุเอกชน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 ถึง เดือนกุมภาพันธ์ 2564 พบว่ามีการส่งกัญชา มากกว่า 400 กว่ารายการ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ผู้ต้องหาที่ 1-2 ว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมาย” เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 ว่า “มียาเสพติดให้
โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” นำส่ง พนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
บช.น. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติดอย่างเคร่งครัด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน