เตือนภัย… อ้างเป็นคนใหญ่โตรู้จักเซียนพระ หลอกให้เหยื่อโอนเงินจองพระ
นายสุธี สาลีเอี่ยม อายุ 30 ปีได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชน จากกรณีที่มีการสั่งจองพระเครื่องจากคนที่รู้จัก ในเฟซบุ๊กผู้ใช้รายหนึ่ง ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของศูนย์จองพระในจังหวัดนนทบุรี โดยบุคคลดังกล่าวอ้างรู้จักกับเซียนพระดัง เช่น เซียน บ. เซียน ป. แล้วยังอ้างเป็นนักการเมือง ที่รู้จักตำรวจ ทหาร ระดับสูง และยังเข้ามาตีสนิทด้วยการนัดไปกินข้าวด้วยกัน เพื่อทำให้เกิดความไว้วางใจ แล้วจึงชักชวนหว่านล้อมให้จองพระผ่านตนเองจะได้พระในราคาไม่สูงเพราะรู้จักผู้สร้าง และรู้จักศูนย์จองพระใหญ่ๆ หลายศูนย์
จนล่าสุด นายสุธี ได้มีการสั่งจองพระเครื่อง โดยโอนเงินให้ไปจองพระให้ จำนวน 49,600 บาท ผ่านทางบัญชีธนาคาร กสิกรไทย ชื่อนายเมฆา ติรโศภิต โดยอ้างบัญชีธนาคารดังกล่าว คือบัญชีของลูกชาย แต่สืบทราบภายหลังว่า บัญชีที่โอนเงินให้ก็คือ บัญชีธนาคารของผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊กคนดังกล่าว แต่เมื่อถึงเวลารับพระเครื่องปรากฏว่าไม่ได้พระ เพราะนายเมฆา ไม่ได้นำเงินไปจองพระให้ตามที่ตกลง เมื่อโทรศัพท์สอบถาม และขอเงินคืน ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง อ้างไม่มีเงิน ทั้งที่ก่อนหน้ากับอวดรวยใส่ทองเส้นใหญ่ๆ โชว์ภาพยอดเงินในบัญชีธนาคารหลายล้านบาท นายสุธี กล่าวอีกว่า ที่ต้องเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการเตือนภัย อย่าได้หลงเชื่อบุคคลนี้ สำหรับกรณีของตน ถือว่าเป็นการฉ้อโกงโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยการวางแผนหลอกนำเงินของตนไป แต่ไม่ได้นำไปจองพระให้จริงๆ และเท่าที่ทราบยังมีผู้เสียหายจำนวนหลายราย ที่โดนเหมือนตน บางคนต้องสูญเงินไปรวมหลักแสนบาท แต่ที่ไม่แจ้งความเพราะกลัว ในความมีอิทธิพล เพราะในเฟสบุ๊ก มักจะมีการโพสต์รูปโชว์อาวุธปืน จึงต้องการให้ตำรวจติดตามตัวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดี และก็อยากเชิญชวนให้ให้ผู้ที่โดนหลอก พากันไปแจ้งความเอาผิด อย่าปล่อยให้ลอยนวลไปหลอกใครได้อีก
ด้าน นายผศิน แก้วกันหา อายุ 35 ปี ที่เป็นผู้เสียหายอีกราย ก็ถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน แต่ต้องไปแจ้งความในพื้นของตนเองที่ สภ.พานทอง เล่าว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีการพูดคุยกันเพื่อชดใช้เงินคืน โดยนัดกันในวันนี้ที่ สภ.เมืองชลบุรี เพื่อจะทำการชดใช้เงินพร้อมกับ นายสุธี แต่ผลปรากฏว่า ไม่ได้มาตามนัด และอ้างว่าไม่มีเงินมาให้ ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ ที่จะตัดสินใจสั่งพระเครื่อง ที่คุยคุยอวดความร่ำรวย คุยโตโชว์ตัวเอง เป็นข้าราชการ เพื่อจะให้คนหลงเชื่อ จึงอยากให้คนที่โดนหลอกเหมือนกับตน เข้ามาแจ้งความ เพื่อดำเนินคดีร่วมกัน ไม่อยากให้หลายคนตกเป็นเหยื่อ เพื่อเป็นการเตือนสังคม ด้าน พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี พนักงานสอบสวน ได้ให้มีการรับแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมทั้งจะมีการนัดผู้ถูกกล่าวหาเข้ามาพูดคุย และสอบสวน ว่าพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายฉ้อโกงหรือไม่ แต่หากไม่มาก็จะออกหมายเรียก เพื่อดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เข้าข่ายฉ้อโกงทรัพย์ ต่อไป
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี