หมอพื้นบ้านเผยแพร่ผลวิจัยเคี้ยวใบกระท่อมไม่มีผลต่อสมองและระบบประสาท
วันที่ 1 มีนาคม นายสันทัด เดชเกิด หมอพื้นบ้านเจ้าของสูตรยาบุญมรกตโอสถที่มีส่วนผสมของน้ำมันกัญชา ในฐานะแกนนำเครือข่ายภาคประชาสังคม อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ปปส. ได้อนุญาตให้ 8 หมู่บ้านพื้นที่ ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย เป็นพื้นที่ผ่อนปรนพิเศษเพื่อปลูกและเสพใบกระท่อมสำหรับการวิจัย ใช้ในการรักษาโรคตามวิถีชุมชน แก้ปัญหาเสพติดชนิดอื่น โดยอนุญาตให้ครอบครองพืชกระท่อม 1,036 ต้น และต้องรอการปลดใบกระท่อมออกจากกฎหมายยาเสพติดประเภท 5 จากนั้นชาว ต.ช้างแรก สามารถพกพาใบกระท่อมภายในพื้นที่ไม่เกิน 30 ใบ เพื่อนำมาเป็นส่วนประกอบร่วมกับยาสมุนไพรชนิดอื่นเพื่อรักษาโรค และห้ามจำหน่าย พร้อมจัดทำธรรมนูญชุมชนเพื่อสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วม นั้น ล่าสุดได้นำผลวิจัยทางวิชาการที่ได้รับทุนจาก ปปส. โดยมอบให้ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบ ภายหลังศึกษาวิจัยพบว่าการใช้พืชกระท่อมเป็นประจำไม่ส่งผลต่อการทำงานของสมอง และระบบประสาท
นายสันทัด กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ผศ.ดร.สมชาย ศรีวิริยะจันทร์ และคณะ ดำเนินการศึกษาความสัมพันธ์ระดับสารมิตราไกนีนซึ่งเป็นสารในพืชกระท่อม ในเลือดกับผลกระทบต่อสมรรถภาพสมองของผู้ใช้พืชกระท่อมเป็นประจำ โดยวิธีการศึกษาได้เก็บรวบรวมข้อมูลและตัวอย่างเลือดจาก 2กลุ่มเป้าหมาย โดยผู้ที่ไม่เคยใช้พืชกระท่อม จำนวน 99 ราย และผู้ใช้พืชกระท่อมแบบวิถีชุมชนดั้งเดิม เป็นประจำระยะเวลานานกว่า 1 ปี จำนวน 192 ราย ทำการทดสอบความสามารถในการรู้คิด บันทึกสัญญาณคลื่นไฟฟ้าสมอง ประเมินการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติด้วยการวิเคราะห์ความแปรปรวนของอัตราการเต้นหัวใจ โดยศึกษาในพื้นที่ ต.น้ำพุ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานีผลการศึกษาวิจัย สรุปว่า การใช้พืชกระท่อมแบบวิถีชุมชนดั้งเดิม คือการเคี้ยวใบสดหรือต้มชงใบกระท่อมแห้งเป็นประจำ ไม่ส่งผลต่อสมรรถภาพด้านความคิดและการรับรู้ การทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ และการทำงานของสมอง
พิสิษฐ์ รื่นเกษม ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์