ส.ส.สวาปจากภูมิใจไทย ไขข้อสงสัยข่าวการสร้างสถานีวิจัยพันธุ์พืชที่ประจวบฯ
ภายหลัง นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงพื้นที่ ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมส่วนราชการในท้องที่ และสำนักงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจากจังหวัดประจวบฯ เพื่อศึกษาความพร้อมด้านสถานที่ที่เหมาะสมในการก่อสร้างสถานีวิจัยพันธุ์พืช ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมจาก นายสวาป เผ่าประทาน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ภาคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นคน อ.ทับสะแก และเคยอภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 4 ก.พ. 64 ที่ผ่านมา โดยเสนอให้มีโครงการก่อสร้างสถาบันวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชในจังหวัดประจวบฯ มาแล้วเช่นกัน
นายสวาป กล่าวว่า แม้ตนจะอายุมากขึ้น แต่ก็ติดตามความเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ทุกวันนี้หลายประเทศต่างแข่งขันกันด้านเทคโนโลยี แต่ตนมองว่าประเทศไทยเราเป็นประเทศเกษตรกรรม มีความพร้อมด้านภูมิศาสตร์และได้เปรียบในหลายปัจจัยที่เอื้อต่อการผลิตพืชผลทางการเกษตร เป็นครัวของโลก ประชากรส่วนใหญ่ก็มีอาชีพด้านการเกษตรอยู่แล้ว ดังนั้นจึงอยากให้เราหันมามองข้อได้เปรียบของไทยเราในจุดนี้และหันมาพัฒนาด้านการเกษตรให้มากขึ้นเพราะเรามีจุดแข็งพร้อมอยู่แล้ว ส่วนการผลักดันให้มีโครงการก่อสร้างสถาบันวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชในจังหวัดประจวบฯ นั้น เพราะข้อมูลทางวิชาการจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรชี้ให้เห็นว่า จังหวัดประจวบฯ ปลูกมะพร้าวและสับปะรด ป้อนสู่ตลาดมากที่สุดของประเทศ คือกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ของที่ปลูกทั่วประเทศ ยังมี มะม่วง ขนุน และพืชอีกหลายชนิด ล้วนปลูกและส่งออกนำรายได้เข้าประเทศอีกเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างปี 2563 จังหวัดเรามีพื้นที่ปลูกสับปะรดโรงงานมากถึง 1 แสน 7 หมื่นไร่ ได้ผลผลิตกว่า 5 แสน 9 หมื่นล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 6 พัน 3 ร้อยล้านบาท ส่วนมะพร้าว เรามีพื้นที่ปลูกมะพร้าวแกง 3 แสน 5 หมื่นไร่ ได้ผลิตกว่า 250 ล้านลูก คิดเป็นมูลค่าเกือบ 3 พัน 6 ร้อยล้านบาท
ดังนั้นตนจึงคิดว่าเมื่อแหล่งผลิตพืชผลการเกษตรที่สำคัญอยู่ที่ประจวบคีรีขันธ์ ทำไมเราไม่ผลักดันให้มีสถาบันวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชอยู่ในพื้นที่ เพื่อพัฒนาพันธุ์พืชเศรษฐกิจในท้องถิ่นให้มีคุณภาพสูง ให้ผลผลิตเพียงพอตามความต้องการของตลาด ทนทานต่อแมลงศัตรูพืช ทนทานต่อสภาพภูมิอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลงรุนแรง เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือผลักดัน อาจก่อสร้างสถาบันแห่งนี้เป็นที่ศึกษา เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ด้านการเกษตร ซึ่งหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องต้องเริ่มศึกษาความเป็นไปได้อย่างจริงจัง