คณะกรรมาธิการแก้ปัญหาช้างป่าเร่งตั้งคณะทำงานและวางกรอบการทำงานเชิงรุก
หลังมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายท่าน ได้ร่วมกันเสนอญัตติและอภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและแก้ไขปัญหาช้างป่าฯ ก่อนลงมติให้มีคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 25 คน กำหนดระยะเวลาพิจารณา 90 วัน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี และรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้รับเลือกเป็นประธานกรรมาธิการฯ นายแพทย์บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นเลขานุการกรรมาธิการ
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนพ.บัญญัติ ถึงข้อสรุปและผลการประชุมกมธ.ครั้งที่ 2ซึ่งผ่านไปเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมใช้เวลากว่า 3 ชม ท่านประธานกมธ. นายสรวุฒิ ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกทั้งส่วนที่เป็นส.ส.และนักวิชาการ ผู้ที่มีความรู้ ประสบการณ์กับช้างป่าและช้างเลี้ยง ได้นำเสนอปัญหาและแนวทางที่ควรดำเนินให้เกิดความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันของแต่ละพื้นที่
ส่วนกรอบการทำงานเพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและยั่งยืน นพ.บัญญัติ กล่าวว่า เบื้องต้นที่ประชุมเห็นชอบให้มีการพิจารณาวางกรอบหรือแนวทางการดำเนินงานไว้หลายประเด็น เช่น วิธีการทำให้ช้างป่ากลับไปอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์โดยไม่กลับออกมาอีก การจัดแบ่งโซนนิ่งให้ชัดเจนระหว่างเขตพื้นที่หากินของช้างป่าและของคน การสร้างแหล่งน้ำและแหล่งอาหารเพิ่มเติมให้เหมาะสม การกำหนดมาตรการให้การเยียวยาหรือให้สินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย การบูรณาการทางข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้มีกฎหมายฉบับเดียวใช้แก้ปัญหาช้างป่าโดยตรง และการนำเทคโนโลยีสมัยเข้ามาสนับสนุนการทำงาน
ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้กำหนดแนวทางให้มีการตั้งอนุกรรมาธิการฯ จำนวน 3 คณะในการพิจารณาศึกษาการแก้ปัญหาช้างป่าตามกรอบข้างต้น นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานจัดทำรายงานและรวบรวมเอกสารคณะกมธ.วิสามัญฯ มีนพ.บัญญัติ เป็นประธานคณะทำงาน เพื่อเก็บรวบรวมสรุปข้อมูลเสนอต่อคณะกมธ.และเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ด้านนายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.เขต 1 อ.เมืองประจวบฯ อ.กุยบุรี และ อ.สามร้อยยอด จากพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ข่าวความสูญเสียต่อทั้งช้างป่ากุยบุรีและชาวบ้านที่อาศัย ทำการเกษตรในพื้นที่ติดกับเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังคงเกิดขึ้นอยู่เป็นระยะๆ แม้ทางอุทยานจะมีแผนป้องกันที่ทันสมัยและได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน องค์กรนักอนุรักษ์ทั้งในและต่างประเทศ แต่ปัญหาช้างป่ากุยบุรีที่เพิ่มจำนวนมากถึง 400 ตัว ไม่นับรวมกระทิงป่าและสัตว์อื่นอีกจำนวนมากกระจายอยู่ตามแนวเขตอุทยาน บางส่วนออกมาหาพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านกินเป็นอาหาร ถือเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติที่รอการแก้ไข ตนจึงหวังว่าการตั้งคณะกมธ.ช้างป่าครั้งนี้จะสามารถกำหนดแนวทางและวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมที่จะช่วยป้องกันและลดความสูญเสียจากปัญหาช้างป่าอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด ทั้งนี้ตนและคณะทำงานอยู่ระหว่างประสานงานเชิญทางคณะกมธ.วิสามัญฯ ลงมาดูข้อเท็จจริงในพื้นที่และติดตามการแก้ปัญหาช้างป่าที่กุยบุรี เบื้องต้นทราบว่านายสรวุฒิ ประธานกมธ.เห็นด้วยในหลักการแล้ว
ประจวบคีรีขันธ์/พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา