ข่าวดีในรอบ 100 ปี กระทรวงเกษตรจ่อสร้างสถานีวิจัยพันธุ์พืชที่ประจวบ เมืองหลวงสับปะรด – มะพร้าวระดับโลก

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้นำนายอำเภอกุยบุรี กำนันตำบลหาดขาม ผู้ใหญ่บ้านบ้านรวมไทย ผู้บ้านย่านซื่อ บ้านยางชุม ตัวแทนสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ อ.กุยบุรี เพื่อสำรวจหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการก่อสร้างสถานีวิจัยพันธุ์พืช หลังจากในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา จ.ประจวบฯมีพื้นที่ปลูกมะพร้าว-สับปะรดมากที่สุดในประเทศรวมกว่า 1 ล้านไร่ ถือเป็นพืชเศรษฐกิจหลัก ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองหลวงของมะพร้าว-สับปะรดระดับโลก แต่ไม่มีสถานีวิจัยพันธุ์พืชโดยเฉพาะ ต้องใช้บริการสถานีวิจัยพันธุ์พืชของ จ.ชุมพร จ.เพชรบุรี ในการตรวจออกใบรับรอง และการวิจัยเพื่อพัฒนาสายพันธุ์พืช นอจกากนั้น จงประจวบฯยังไมมีวิทยาลัยการเกษตรในระดับอาชีวะศึกษา

นายชาตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมากว่า 50 ปี กลุ่มเกษตรกรได้ร้องขอจังหวัดให้มีสถานีวิจัยพันธุ์พืชในพื้นที่แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ครั้งนี้ถือเป็นข่าวดี หลังจากกรมวิชาการเกษตรจะตั้งสถานีวิจัยพันธุ์พืชในพื้นที่ จ.ประจวบฯ แต่มีปัญหาไม่สามารถจัดหาที่ดินได้ จึงได้ขอความอนุเคราะห์จังหวัดหาที่ดินเพื่อก่อสร้างสถานีวิจัยพันธุ์พืช จากการลงพื้นที่ร่วมกันสำรวจพบว่ามีพื้นที่ป่าไม้ 200 ไร่ ที่บ้านรวมไทย ติดกับสถานีอาหารสัตว์ของกรมปศุสัตว์ มีความเหมาะสมกับการตั้งสถานีวิจัยพันธุ์พืช แต่มีชาวบ้านปลูกต้นหม่อนประมาณ 100 กว่าไร่ จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านนัดประชุมพูดคุยกับชาวบ้าน หากไม่ขัดข้อง จะตัดหาพื้นที่ให้ชาวบ้านปลูกหม่อนในพื้นที่ใหม่ทดแทน

“ขณะเดียวกัน มีผู้เสนอให้ใช้ที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ 400 ไร่ ที่เป็นที่เปิดให้ประชาชนเช่า แต่ไม่มีผู้เช่า เป็นที่ที่เหมาะสม เนื่องจากติดถนนราดยาง มีไฟฟ้าแรงสูงเข้าถึง มีความอุดมสมบูรณ์มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำกุยบุรี จึงได้ไปสำรวจพื้นที่ร่วมกัน ขณะนี้จึงมีที่ดิน 2 แปลง เพื่อให้กรมวิชาการเกษตรคัดเลือก หากเลือกพื้นที่บ้านรวมไทยก็ต้องคุยกับบ้านที่ปลูกหม่อน หรือเลือกที่ดินราชพัสดุก็มีความเหมาะสม โดยจะเร่งหารือกับสำนักงานธนารักษ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ” นายชาตรี กล่าว

พิสิษฐ์  รื่นเกษม  ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  รายงาน